สวัสดีค่ะ หมอมะปราง Amara Clinic นะคะ ไม่ว่าจะเป็นคนอายุน้อยหรืออายุมาก ใคร ๆ ก็อยากจะมีผิวหน้าที่กระชับเต่งตึง ไร้ริ้วรอย และสว่างกระจ่างใสกันใช่ไหมคะ ถ้าเรายังอยู่ในวัยทำงานอยู่ยังปรับพฤติกรรมทันนะคะ แต่ถ้าใครที่อายุค่อนข้างมากแล้ว การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันอาจไม่เพียงพอค่ะ สำหรับวันนี้หมอก็มีวิธีแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ดูโทรม ดูแก่ก่อนวัย และไม่เต่งตึงมาฝากกัน แน่นอนว่าวิธีทางการแพทย์อย่างการฉีดสารเติมเต็มมันช่วยได้อยู่แล้ว แต่การปรับพฤติกรรมของตัวเองก็ช่วยได้เยอะไม่แพ้กันค่ะ นอกจากหมอจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาหน้าโทรมหมองคล้ำแล้ว หมอก็จะมาอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้หน้าโทรมด้วย เพื่อให้ผู้อ่านเช็คตัวเองว่ากำลังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่รึเปล่านั่นเองค่ะ

หน้าหมองคล้ำเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย โดยคนที่มีปัญหาหน้าหมองคล้ำมักจะมีปัญหาเรื่องริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงความกระชับอยู่ด้วย และปัญหาบนใบหน้าทั้งหลายที่ทำให้หน้าโทรมนั้น ก็มีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี, มลภาวะทางอากาศ, แสงแดด, สภาพอากาศที่เปลี่ยนไป, ความเครียด, การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, การดื่มน้ำน้อย, การสูบบุหรี่ และรวมไปถึงพฤติกรรมอื่น ๆ ด้วย

3.แสงแดด

ใครที่คิดว่าตัวเองท้าแดดได้ไม่เป็นไร เป็นคนขาวอยู่แล้วหน้าคงไม่หมองคล้ำง่าย ๆ หรอก เปลี่ยนความคิดทันทีค่ะ! ไม่หน้าหมองคล้ำวันนี้ก็จริง แต่สภาพผิวมันค่อย ๆ ถูกทำลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแสงแดดเช้า ๆ หรือแดดอ่อน ๆ จะมีวิตามินดีที่ดีต่อสุขภาพผิวอยู่ค่ะ แต่พอเริ่มสาย เที่ยง และบ่ายเท่านั้นแหละ จะกลายเป็นว่าเราได้รับรังสียูวีมาแบบจัดเต็ม ซึ่งรังสีเหล่านี้จะไปทำลายเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวแห้ง เสื่อมสภาพ และมีความหมองคล้ำ (ใครที่ออกแดดบ่อย ท้าผิวให้เผชิญกับแดดโดยตรง และไม่ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม หน้าจะโทรม หมองคล้ำ และแก่ก่อนวัยได้ค่ะ)

5.นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ

ช่วง 22.00 – 02.00 น. ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมน Melatonin ที่ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกายของเรา ถ้าเรานอนดึก หรือนอนน้อย ร่างกายก็จะไม่หลั่งสารนี้ออกมา ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ผิวก็แย่ลง ใต้ตาดำคล้ำ หน้าก็ดูโทรมและหมองคล้ำไม่กระจ่างใส

6.ความเครียดสะสม

เวลาที่เรารู้สึกเครียดไม่ผ่อนคลาย ร่างกายจะอยู่ในภาวะกดดันตัวเอง บางครั้งก็ทำให้เรานอนไม่หลับ และจากนั้นก็จะหลั่งฮอร์โมน Cortisol ออกมา ส่งผลให้เรามีสิวขึ้น ผิวดูหมองลงกว่าเดิม ไม่เปร่งปลั่งกระจ่างใสอย่างที่เคย

7.ดื่มน้ำน้อย ไม่เพียงพอต่อร่างกาย

น้ำเปล่าเป็นอะไรที่สำคัญต่อร่างกายของเรามาก ๆ ค่ะ ยิ่งกินเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สุขภาพผิวดีขึ้นเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นการบำรุงผิวจากภายในก็ย่อมได้ เซลล์ของเรสก็จะอุ้มน้ำไว้ ผิวของเราก็จะเด้งดึ๋ง ชุ่มชื้น กระชับเต่งตึง และสว่างกระจ่างใส ไม่มีปัญหาหน้าหมองคล้ำเลย แต่ถ้าคนไหนกินน้ำน้อย จิบน้ำน้อย ๆ ละก็ ผิวก็จะแห้ง ใบหน้าหมองคล้ำขึ้น ดูโทรมขึ้น ไม่กระจ่างใสและเต่งตึงอย่างที่ต้องการ

หากเกิดปัญหาหน้าหมองคล้ำ ใช้อะไรดี? หมอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้ขาวใส โดยเลือกเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของกลุ่มไวท์เทนนิ่ง หากใช้เป็นครีมทาผิวในตอนกลางวัน แนะนำให้ใช้เป็นครีมบำรุงที่มีสารกัดแดดร่วมด้วย หรือทาครีมกันแดดหลังทาครีมบำรุง ซึ่งเราสามารถมองหาส่วนประกอบเหล่านี้ได้จากรายละเอียดข้างผลิตภัณฑ์ครีมหรือโลชั่นบำรุง ดังนี้ค่ะ

• อาบูติน เป็นสารสกัดที่มาจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งมาจากธรรมชาติ นอกจากจะปรับสีผิวให้ขาวใสแล้ว ยังช่วยลดเลือนฝ้าได้
• วิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจนในผิว ปรับสีผิวหน้าหมองคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
• วิตามินอี ให้ความชุ่มชื่น ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ
• กรดโคจิก หรือ Kojic Acid ช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี ลดหน้าหมองคล้ำ
• ลิโคไรต์ หรือ Licorice Extract สารสกัดจากชะเอมเทศ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนจุดด่างดำและริ้วรอย
• กรดเรติโนอิก หรือ Retinoic Acid กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่

ทาง Amara Clinic เราก็มีบริการทั้งด้านศัลยกรรมเพื่อความงาม และบริการด้านการดูแลปัญหาผิวพรรณ แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ รวมไปถึงสุขภาพของคนไข้ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการ Drip Vitamin C สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวและร่างกายจากภายใน, Drip Vitamin Aura ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสอมชมพู, เติมไขมันเพิ่มความเต่งตึง, ดูดไขมันลดส่วนเกิน, ฉีดสารเติมเต็ม (Filler Substance) , ศัลยกรรมใบหน้า และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านความงามและการชะลอวัย, แพทย์ผู้ชำนาญการด้านดูดไขมัน-เติมไขมัน และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง

• ประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างละเอียด
• ออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• มีรีวิวฉีดไขมัน และรีวิวบริการอื่น ๆ ให้ชมเพียบ
• สามารถตรวจสอบตัวยาที่ใช้ในการฉีดเติมเต็มได้
• ห้องผ่าตัดได้มาตรฐานและมีระบบปลอดเชื้อ
• เครื่องมือ-อุปกรณ์ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรอง
• วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพแบบ 1:1
• มีห้องพักฟื้นและบริการ After Care ดูแลหลังทำ