4 สิ่งควรรู้ก่อนผ่าตัดถุงใต้ตา เคลียร์ปัญหาถุงใต้ตาตรงจุด!

การหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราอยากจะทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำมาก ยิ่งเป็นการศัลยกรรมที่มีการผ่าตัดลงมีดเพื่อแก้ไขปัญหาจากภายในแล้ว ยิ่งต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดีเลยนะครับ ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการศัลยกรรมที่เราอยากจะทำนั้นสำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เราหลงไปทำกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือแพทย์ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญจริงนั่นเอง สำหรับใครที่อยากศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา หรือไม่อยากจะมีไขมันใต้ตาต่าง ๆ อีกแล้ว มาดูกันครับว่าควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจผ่าตัดถุงใต้ตา

บางคนอาจจะรู้สึกว่าทำไมเราถึงมีถุงใต้ตาเยอะมาก บางคนมีน้อยกว่า บางคนเป็นไม่นานก็หาย จนเกิดคำถามในใจว่าถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? ถุงใต้ตาของเราแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือถุงใต้ตาแท้และถุงใต้ตาเทียม ความแตกต่างของมันคือจุดกำเนิดที่ทำให้เรามีถุงใต้ตา ลักษณะของถุงใต้ตา และรวมไปถึงระยะเวลาที่มันคงอยู่ด้วยครับ (บางคนเป็นไม่กี่วัน บางคนเป็นตลอดชีวิต) โดยมีรายละเอียดดังนี้

ถุงใต้ตาแท้

ถุงใต้ตาแท้มีที่มาตั้งต้นจากการผิดปกติของกรรมพันธุ์ ที่ส่งต่อจากพ่อแม่ลงมาแบบรุ่นสู่รุ่น ซึ่งมันคือการที่ต่อมไร้ท่อภายในร่างกายทำงานผิดปกติ จากที่ของเหลวในร่างกายจะกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วร่างกาย กลับกลายเป็นว่ามารวมตัวกันอยู่บริเวณใต้ตาของเรา ส่งผลให้เกิดเป็นถุงใต้ตาขึ้นมานี่แหละครับ ยิ่งนานวันเข้าปัญหาถุงใต้ตาใหญ่ก็จะมากขึ้น และตามมาด้วยปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยที่เราชอบเจอในคนมีอายุครับ เคสแบบนี้มันไม่ได้มาแปปเดียวหายนะครับ ถ้าไม่ผ่าตัดถุงใต้ตาออกมันก็จะอยู่กับเราตลอดชีวิตเลย

ถุงใต้ตาเทียม

สำหรับถุงใต้ตาเทียมให้เราทำความเข้าใจง่าย ๆ ครับว่ามันคือถุงใต้ตาที่มาบ้างไม่มาบ้าง จะเห็นได้ชัดเจนและบวมมากขึ้นหลังจากที่เราทำพฤติกรรมบ้างอย่าง เช่น ร้องไห้หนักมาก (จนกลายเป็นวลีร้องไห้จนตาบวม), ขยี้ตาแรง ๆ , ทำงานโต้รุ่ง อดหลับอดนอน, จ้องแสงจากหน้าจอคอมเยอะ เล่นมือถือเยอะ หรืออยู่กลางแจ้งนาน และรวมไปถึงพวกอาการแพ้ของแต่ละบุคคลด้วยครับ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ถุงใต้ตาเหล่านี้ก็หายไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดถุงใต้ตาเลย

ถุงใต้ตาเยอะและแน่น

คนที่มีถุงใต้ตาแท้ มีถุงใต้ตาเยอะ มีไขมันใต้ตาแน่น ต้องการให้ใต้ตากลับมาสวยงามอีกครั้ง หมอแนะนำให้ผ่าตัดถุงใต้ตาออกไปเลยครับ มันเป็นการรักษาที่ตรงจุดและเห็นผลชัดที่สุด โดยการผ่าตัดถุงใต้ตานั้นจะมีทั้งการเปิดแผลด้านนอก และการเปิดแผลด้านใน เนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีระดับของปัญหาของถุงใต้ตาที่ไม่เท่ากัน หมอเลยแนะนำให้เข้ามาประเมินก่อนนะครับ ว่าควรจะผ่าตัดถุงใต้ตาแบบไหนด้วยเทคนิคอะไร ควรผ่าตัดถุงใต้ตาอย่างเดียวจบ หรือควรทำอย่างอื่นร่วมด้วย การเข้าปรึกษาแพทย์โดยตรงนี่แหละ ช่วยตอบคำถามนี้ได้

ถุงใต้ตาเป็นชั้นไม่เต่งตึง

เคสที่มีถุงใต้ตาเป็นชั้น ๆ ไม่เต่งตึง ไม่ได้มีปัญหาถุงใต้ตาบวมเป่งเท่าไหร่นัก อาจจะใช้วิธีการผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตาให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น หรือจะใช้วิธีการฉีดสารเติมเต็มก็เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มจะแบ่งเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี จะออกมาเป็นทรงสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝีมือของแพทย์ที่ฉีดให้)  และการฉีดไขมันใต้ตา (ใช้ไขมันของตัวเราไป ไปเข้ากระบวนการปั่นและคัดกรอง เพื่อให้ได้เซลล์ไขมัรที่มีคุณภาพดีที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเรื่องการปรับสภาพผิวได้อีกด้วย) ครับ

หลาย ๆ คนอาจจะรู้แค่การมีถุงใต้ตามันบอกได้แค่การเป็นโรคภูมิแพ้เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วถุงใต้ตาบอกโรคอื่น ๆ ได้ด้วยนะครับ ซึ่งระดับและอาการที่แสดงออกมาจากการที่มีถุงใต้ตาบวมใหญ่นั้น จะแตกต่างต่างไปตามโรคที่เป็น ถ้าอยู่ ๆ มีอาการถุงใต้ตาบวมใหญ่ รู้สึกว่ามันแปลก ๆ ไม่ปกติ แนะนำให้รีบเข้าพบปรึกษากับแพทย์โดยด่วนเลยนะครับ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของโรคบางชนิดได้ เช่น 

• โรคภูมิแพ้ (Allergic Shiner)
• โรคตาไทรอยด์ (Thyroid eye disease)
• มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในตา
• เยื่อบุตาอักเสบบวมแดง
• ต่อมน้ำตาอุดตัน
• ไตและหัวใจกำลังอ่อนแอลง

สำหรับใครที่รู้สึกว่าถุงใต้ตามันใหญ่เกินไปและอยากกำจัดออกไปให้ตรงจุด หมอแนะนำให้เข้าไปพบศัลยแพทย์โดยตรงนะครับ หรืออาจจะเริ่มดูว่าถุงใต้ตาเกิดจากอะไรมีลักษณะแบบไหน จากนั้นก็ดูว่ามันน่าจะรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง พอเรารู้ว่าวิธีแล้วเราก็จะรู้ว่าควรมองหาคลินิกกำจัดถุงใต้ตาแบบไหน และควรจะไปผ่าตัดถุงใต้ตาที่ไหนดี เช่น คนที่อยากผ่าตัดถุงใต้ตาออกไป แนะนำให้มองหาคลินิกศัลยกรรมที่น่าเชื่อถือ ดูมีความปลอดภัย มีห้องผ่าตัดที่สะอาดและได้มาตรฐาน แพทย์เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งหรือจักษุแพทย์ ดูบริการจากเจ้าหน้าที่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือการดูรีวิวผ่าตัดถุงใต้ตาครับ