กว่าจะมาเป็นหมอดูดไขมันอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย หมอไอซ์ต้องผ่านอะไรมาและโฟกัสดูดไขมันมายังไงบ้าง ถึงดูดไขมันออกมาได้สวยและเชี่ยวชาญ อย่างที่คนไข้ บริษัท และอีกหลาย ๆ เว็บไซต์ให้การยอมรับ หมอบอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลยนะครับ ซึ่งในตอนนี้หมอก็รู้สึกดีใจมาก เพราะคนไข้แฮปปี้กับหุ่นที่หมอเหลาให้ ทำให้หมอแฮปปี้กับการดูดไขมันขึ้นไปอีกครับ ในบทความนี้ หมอไอซ์ Amara Clinic ก็จะมาเล่าที่มาที่ไปว่ากว่าที่จะมาเป็นคลินิกดูดไขมันอันดับ 1 ในประเทศไทยนี้ หมอต้องผ่านอะไรมาบ้าง และมีความคิดต่อการดูดไขมันอย่างไร
ทำไมหมอไอซ์ถึงมาโฟกัสดูดไขมัน-เติมไขมัน
บทที่ 1 : จุดเริ่มต้น
หมอขอเล่าเกริ่นตั้งแต่แรกก่อนเลยนะครับ ส่วนตัวแล้วหมอจะมีนิสัยที่ถ้าทำอะไรแล้วชอบ จะทำอยู่อย่างเดียวหรือโฟกัสเฉพาะเรื่องนั้น ๆ ไปให้รู้จริงไปเลย ซึ่งเมื่อก่อนหมอจะทำเกี่ยวกับการปรับรูปหน้าอย่างเดียว ซึ่งในตอนนั้นหมอศึกษาเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ครับ ก็ทำไปเรื่อย ๆ จนบริษัทยาระดับโลก เชิญหมอให้ไปเป็นคนสอนฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าเลยล่ะครับ (อาจารย์แพทย์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ หรือ Local Mentor Trainer ของบริษัท Galderma)
สำหรับจุดเปลี่ยนที่ให้หมอมาโฟกัสดูดไขมัน-เติมไขมัน เริ่มมาจากการที่หมอได้ทำการเก็บไขมัน เพื่อเอามาเติมที่ใบหน้า (ฉีดไขมันที่หน้า) สำหรับปรับรูปหน้าให้ดูสวยเต็มขึ้นเท่านั้น ไม่ได้ทำในเรื่องของการปรับรูปร่างร่วมด้วย แต่มีคนไข้อยู่หลายเคสเลยครับ ค่อย ๆ ทยอยมาถามหมอว่า… “ไหน ๆ คุณหมอก็ดูดไขมันให้แล้ว คุณหมอเก็บให้ขาหนูสวยไปเลยได้ไหมคะ” หมอก็เริ่มเอาเก็บมาคิดทบทวนครับว่า เราจะโฟกัสแค่การปรับรูปหน้าอย่างเดียวจริง ๆ เหรอ? หรือเราควรโฟกัสดูดไขมันในการปรับรูปร่างด้วย?
ด้วยเหตุผลนี้เองก็ทำให้หมอเริ่มศึกษาการดูดไขมันมากขึ้น โฟกัสดูดไขมันเพื่อปรับรูปร่างโดยเฉพาะ (ก่อนหน้านี้หมอจะโฟกัสดูดไขมันสำหรับปรับรูปหน้าเพียงอย่างเดียวครับ) ซึ่งในสมัยนั้นที่ประเทศไทย ไม่ค่อยมีการเรียนเรื่องการดูดไขมันเพื่อความสวยงามเลย มีแต่การดูดไขมันเพื่อรักษาโรคเท่านั้น หมอก็เลยเดินทางไปเรียนดูดไขมันที่ต่างประเทศ ทั้งเรียนดูดไขมันเกาหลี, ฟิลิปปินส์ และอเมริกาเลยล่ะครับ และไม่ได้เรียนแล้วจบแค่นั้นนะครับ หมอก็มาอ่านหนังสืออีกเยอะมาก ๆ ดูเคสต่าง ๆ และศึกษาแบบโฟกัสเฉพาะดูดไขมันอย่างเดียวจริง ๆ
บทที่ 2 : การลงมือทำ
จากการเรียนและศึกษาโฟกัสดูดไขมันมาทั้งหลาย หมอก็แน่นทฤษฎีมาก ๆ ครับ แต่ก็มีการปฏิบัติลงมือดูดไขมัน-เติมไขมันมาจริงด้วยนะครับ ตอนที่หมอได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ พอหมอกลับมาประเทศไทยก็เริ่มทำเคสดูดไขมันที่ไทยครับ ยิ่งทำไปเราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรใหม่ ๆ มาให้เราเรียนรู้อยู่ตลอด ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาเลย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในการดูดไขมัน, เครื่องดูดไขมัน รวมไปถึงเทคนิคในการดูดไขมันต่าง ๆ ด้วย
หมอก็มีความอิน สนุก ทำให้กลายเป็นชอบที่จะโฟกัสดูดไขมันมาก ๆ ไม่มีเบื่อเลยครับ ยิ่งคนไข้แฮปปี้กับผลลัพธ์ เราเองก็ยิ่งแฮปปี้ไปอีก เพราะสำหรับหมอแล้วการดูดไขมันเปรียบเสมือนการตัดชุดใหม่ให้คนไข้แต่ละคน ว่าเราจะต้องตัดชุดแบบไหนให้เข้ากับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด ก็จะมีความท้าทายไปในตัวด้วยเช่นกัน เนื่องจากการดูดไขมันเป็นทางการแพทย์ หลาย ๆ คนเลยคิดว่ามันจะเป็นวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวใช่ไหมครับ แต่สำหรับหมอแล้วไม่ใช่เลย การดูดไขมันเป็นการผสานกันระหว่างวิทยาศาสตร์กับศิลปะต่างหากครับ
- วิทยาศาสตร์ : รู้จักสรีระร่างกาย เซลล์ต่าง ๆ องค์ประกอบของร่างกาย และภาวะต่าง ๆ เป็นอย่างดี
- ศิลปะ : การออกแบบเหลาสัดส่วน หรือดูดไขมันอย่างไรให้ออกมาสวย ดูสมส่วน ธรรมชาติ และเหมาะกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด
ทำความรู้จักคุณหมอไอซ์ คุณหมอมะปรางให้มากชึ้น
ดูดไขมันอันตรายไหมในความคิดของหมอไอซ์
สำหรับบางคนแล้ว ภาพจำสำหรับการดูดไขมันอาจจะเป็นความอันตรายและยังคงมองแบบนี้มาจนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะในสมัยก่อนข่าวการดูดไขมันแล้วตายหรือเสียชีวิตมีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ หากถามว่าในปัจจุบันดูดไขมันอันตรายไหม? สำหรับหมอมองว่าส่วนใหญ่ไม่ได้อันตรายแล้วครับ เพราะอะไรหลาย ๆ อย่างมันก็ถูกพัฒนามาจนถึงขั้นที่มีความเสี่ยงน้อยมาก ๆ แล้ว เว้นเสียแต่ว่าคนไข้บางคนไม่ได้เช็คมาตรฐานของคลินิกหรือตัวแพทย์ให้ดีก่อนตัดสินใจครับ
ในความเป็นจริง “ความปลอดภัย” ของการดูดไขมันนั้น หลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับมาตรฐาน, เทคโนโลยี, แพทย์, ห้องผ่าตัด, เครื่องมือ, บุคลากร และรวมไปถึงการรับผิดชอบของคลินิกดูดไขมันด้วยครับ (ก่อนที่จะตัดสินใจดูดไขมันที่ไหนดี หมอเลยอยากให้ทุก ๆ คนดูสิ่งเหล่านี้ก่อนครับ)
- มาตรฐาน : คลินิกดูดไขมันมีมาตรฐานจริงไหม? ทั้งในเรื่องของเครื่องมือ, อุปกรณ์, ผลิตภัณฑ์, ความสะอาด, ความพร้อม และความปลอดภัยเลยครับ
- เทคโนโลยี : สมัยก่อนเทคโนโลยีการดูดไขมันถูกจำกัดอยู่มากครับ แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ และมีคุณภาพเกิดขึ้นเยอะ เลยทำให้หมอมีตัวเลือกที่มากขึ้น และสามารถเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะกับคนไข้แต่ละเคสได้
- แพทย์ : แพทย์มีความเชี่ยวชาญมากน้อยแค่ไหน ทำผลงานออกมาได้สวยในแบบที่เราต้องการไหม โดยอาจจะดูได้จากรีวิวดูดไขมันประกอบครับ
- ห้องผ่าตัด : ห้องผ่าตัดต้องมีความสะอาด ปลอดเชื้อ เครื่องมือครบ ระบบครบ และได้มาตรฐานจริง ๆ
- เครื่องมือ-อุปกรณ์ : เครื่องมือแพทย์มีหลายเกรดมาก ๆ เลยครับ บางคลินิกอาจจะเลือกใช้เครื่องที่มีราคาถูกแต่คุณภาพไม่ดีก็ได้ ทำให้คุณภาพและผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่ต้องการ ที่สำคัญอาจจะไม่ปลอดภัยนัก
- บุคลากร : นอกจากแพทย์ที่ทำการดูดไขมันแล้ว ควรจะต้องมีวิสัญญีแพทย์ในการให้ยาสลบ มีพยาบาลวิชาชีพในการเฝ้าระวังร่วมด้วย และมีผู้ช่วยแพทย์ที่มีพื้นฐานในการช่วยเหลือแบบเร่งด่วนด้วยเช่นกัน
- การรับผิดชอบของคลินิก : เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ บางคนอาจจะเจอคลินิกที่ทำเคสเราไม่สวย ผลข้างเคียงเยอะ และไม่มีความรับผิดชอบ ตรงนี้ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหากับเราได้เช่นกัน ดังนั้น ต้องเลือกคลินิกที่มีการรับประกัน หรือดูแลหลังทำด้วยนะครับ
ทำไมถึงดูดไขมันออกมาแล้วสวยทุกเคส?
การที่หมอดูดไขมันออกมาแล้วสวยดูดีทุกเคสในปัจจุบันนี้ มาจากความพยายาม ประสบการณ์ และความอินที่หมอโฟกัสดูดไขมันเป็นพิเศษครับ หมอทำงานด้วยความชอบ ทำเฉพาะการดูดไขมัน-เติมไขมันโดยตรงเลย ตื่นมาหมอก็ไปดูดไขมัน-เติมไขมัน กลับมาบ้านก็อ่านหนังสือศึกษาด้านการดูดไขมัน-เติมไขมันอีก เปิดดูภาพผู้หญิงที่มีหุ่นสวย ๆ และวางแผนว่าจะต้องทำการรักษาแบบไหน ถึงจะสามารถทำให้ได้หุ่นแบบนี้ ร่วมไปกับการดูเคสดูดไขมันจากต่างประเทศเยอะมาก ๆ
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้ครับ เลยทำให้หมอดูดไขมันออกมาได้ดี ผลงานดี เคสหลุดน้อย พอเราดูดไขมันได้ดีก็เกิดการบอกต่อไปเรื่อย ๆ จนทำให้หมอมีเคสดูดไขมันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเลยครับ หมอก็ไม่แน่ใจว่าในปัจจุบันนี้ หมอเป็นคนที่มีเคสดูดไขมันเยอะที่สุดในประเทศไทยรึเปล่านะครับ เพราะว่ายังไม่ได้มีการนับอย่างเป็นทางการเลย
แต่ถ้าเป็นการนับจำนวนเก็บสถิติอย่างเป็นทางการ จะเป็นการดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-jet ครับ อันนี้หมอพูดอย่างภาคภูมิใจเลยนะครับ ว่าหมอเป็นอันดับ 1 เรื่องดูดไขมัน-เติมไขมันด้วย Body-jet ในประเทศไทยจริง ๆ (ได้รับรางวัลการันตีผลงานจริง ๆ ครับ) และล่าสุดหมอเพิ่งได้รางวัลอันดับ 1 ของเอเชียที่เป็นคลินิกที่มีเคสยกกระชับสัดส่วนด้วย J Plasma มากที่สุด
หมอเก่งทุกเรื่องไหม? ทำได้ทุกอย่างจริงเหรอ?
หมอไม่ได้ทำทุกอย่างได้ครับ หมอทำได้ดีสำหรับการดูดไขมัน เติมไขมัน และกระชับสัดส่วนเท่านั้น ถ้าบางคนเห็นว่าที่ Amara Clinic มีพวกศัลยกรรมอื่น ๆ อย่างการเสริมหน้าอก, ยกกระชับหน้าอก, ตัดหนังหน้าท้อง, เสริมคาง, เสริมตา, ผ่าตัดหน้าอก หรืออื่น ๆ แล้วสงสัยว่าการศัลยกรรมเหล่านี้ หมอไอซ์ก็ทำเหรอ? ไม่ใช่นะครับ ที่คลินิกจะมีคุณหมอที่เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางดูแลในส่วนนี้อยู่ครับ
หมอไอซ์ดูดไขมันแล้วมีเคสหลุดบ้างไหม?
หมอต้องบอกว่าแพทย์ทุกคนมีเคสหลุดแน่นอนครับ จะมากจะน้อยยังไงก็ขึ้นอยู่กับตัวหมอและเคสด้วย สำหรับหมอเอง หมอบอกตัวเองอยู่เสมอตั้งแต่การทำหัตถการให้คนไข้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยครับว่า ถ้าเราเกิดทำให้มีเคสหลุดขึ้นมาหรือผิดพลาดตรงไหน เราต้องมาดูสาเหตุให้แน่ชัด ดูแลและรับผิดชอบคนไข้อย่างเต็มที่ และจะมีเคสหลุดในกรณีเดียวกันซ้ำอีกไม่ได้เด็ดขาด กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ หมอผ่านประสบการณ์การดูดไขมันมาหลายหมื่นเคสมาก ๆ ครับ จนไม่มีเคสหลุดโผล่มาให้เห็นอีกเลย
รางวัลการันตีผลงานหลังโฟกัสดูดไขมัน
Amara Clinic ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศูนย์การสอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ด้วยเครื่อง Body-jet ประจำประเทศไทย (Body-jet Education Center) จากบริษัท Technicalbiomed (บริษัทนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์) โดยตรงเลยครับ หมายความว่า ไม่ว่าคลินิกไหนในประเทศไทยที่ต้องการใช้เครื่อง Body-jet ในการดูดไขมัน-เติมไขมัน จะต้องเข้ามาเรียนรู้กับหมอก่อนทุกคลินิกครับ
รางวัล The Most Body-Jet Users
คลินิกที่มีเคสดูดไขมันพลังน้ำมากที่สุดในไทย 4 ปีซ้อน (2018-2021)
รางวัล J Plasma No. 1 in Asia of Procedures Done in 2020 / 2021
คลินิกที่มีเคส J Plasma มากที่สุดในทวีปเอเชีย 2 ปีซ้อน (2020-2021)
เทคนิคดูดไขมัน-เติมไขมันของหมอไอซ์
ตอนแรก ๆ หมอก็ไม่ได้มีเทคนิคในการดูดไขมัน-เติมไขมันอะไรมากมายหรอกนะครับ นอกจากเทคนิคจากประเทศเกาหลีที่หมอได้เรียนมา ซึ่งจากประสบการณ์ที่หมอได้ไปเรียนจากหลาย ๆ ประเทศ และศึกษาเรื่องเครื่องมือทุกเครื่องนั้น ทำให้หมอได้ทราบว่าในแต่ละประเทศจะใช้เทคนิคดูดไขมันไม่เหมือนกัน และยังมีรูปร่างหลังดูดไขมันไม่เหมือนกันอีกด้วย (ขึ้นอยู่กับเทรนด์และความชอบของแต่ละประเทศครับ)
ตรงนี้ทำให้หมอได้ความรู้ได้เทคนิคมาเยอะมาก ร่วมกับการที่หมอศึกษาและโฟกัสดูดไขมันด้วยตัวเองมาเยอะด้วย หมอก็พัฒนาฝีมือของตัวเองมาเรื่อย ๆ นะครับ ปรับเอาหลาย ๆ เทคนิคมาใช้ให้เป็นเทคนิคเฉพาะตัวของเรา (Signature) ที่ทำให้คนไข้มองแล้วว่าหุ่นแบบนี้แหละ ต้องเป็นหมอไอซ์ทำแน่นอน คนก็เริ่มพูดถึงและบอกต่อกันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ครับ เราไปลองทำความรู้จักกับเทคนิคของหมอที่ใช้ในการปรับรูปร่างให้กับคนไข้กันครับ
เทคนิคการออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล
คนไข้หมอแต่ละคนมีลักษณะของโครงร่างที่ไม่เหมือนกันครับ แน่นอนว่าปริมาณไขมันในแต่ละตำแหน่ง สภาพผิว และปัญหาของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันด้วย ก่อนดูดไขมันหมอจะมีการวางแผนร่วมกับคนไข้ทุกเคสครับ ว่าถ้าคนไข้คาดหวังรูปร่างแบบนี้ หมอสามารถทำอะไรยังไงได้บ้าง ควรจะดูดไขมันจากส่วนไหนในปริมาณเท่าไหร่ คนไข้โอเคไหมหรือต้องการเพิ่มลดจุดไหน โดยจะวางแผนแบบเฉพาะบุคคลจริง ๆ ครับ
บางคนอาจจะคิดว่าการดูดไขมันนั้น ยิ่งดูดได้เยอะ=ยิ่งดีมากเท่านั้น สำหรับหมอไม่ได้มองแบบนั้นครับ ด้วยเงื่อนไขที่ร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้ปริมาณในการดูดไขมันออกมาของแต่ละคนย่อมต้องแตกต่างกันด้วยเช่นกัน หมอจึงดูดไขมันออกมาในปริมาณที่เหมาะสมมากที่สุด เพื่อให้เข้ากับรูปร่างกับคนไข้แต่ละคน และมีความสมส่วน ไม่เบี้ยวและไม่มีปัญหาอะไรหลังทำครับ
เทคนิคดูดไขมันในแต่ละสัดส่วน
สำหรับการดูดไขมันและเติมไขมันแต่ละตำแหน่ง หมอก็จะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปครับ บางเทคนิคหมอก็เอาเทคนิคดูดไขมันเกาหลีมาปรับใช้ และบางเทคนิคหมอก็คิดขึ้นมาจากประสบการ์ณในการดูดไขมัน-เติมไขมันมาหลาย ๆ ปีครับ
ตัวอย่างเช่น…
- เทคนิค Sexy Line HiDef 4D 360° : เหลา Sexy Line หรือร่อง 11 ให้มีมีติแบบ 4D ดูเป็นธรรมชาติทั้งแสงและเงา
- เทคนิคดูดไขมันเอวเอส เหมารอบ 360° : การดูดไขมันเอวเอสแบบรอบ รวมไปถึงบริเวณปีกหลังด้วย เพื่อให้เอวคอดที่สุด
- เทคนิคดูดไขมันแขน Real Arms : เป็นการดูดไขมันรอบต้นแขนและรอบหัวไหล่พร้อมกัน (ต้นแขนเรียวหัวไหล่สวย) เพื่อให้ออกมาสมส่วนที่สุด
- เทคนิคดูดไขมันต้นขา Real Legs : ปรับต้นขาให้เรียวเป็นทรงตะเกียบสวยที่สุด (ไล่ระดับความเรียวแบบบนลงล่าง)
- เทคนิคการวางเรียงไขมันจากเกาหลี : ค่อย ๆ ฉีดไขมันเป็นเส้นที่เรียงตัวสวย ในปริมาณ ระดับ ตำแหน่ง และโมเลกุลของไขมันที่เหมาะสมที่สุด ไม่ได้เน้นการฉีดไขมันแบบเยอะ ๆ จนทำให้ไขมันเบียดกันจนสลายตายไปครับ
เทคนิคการซ่อนแผลดูดไขมัน
สำหรับเคสที่ดูดไขมันกับหมอ หมอจะมีการเปิดแผลขนาดเล็กเพียงพอให้สามารถสอดเข็มดูดไขมันลงไปได้เท่านั้น ซึ่งหมอจะพยายามเปิดแผลในตำแหน่งที่มิดชิดมากที่สุด ส่วนใหญ่หมอจะเปิดไว้ใต้ขอบบิกินีไลน์ คือใต้ขอบเสื้อใน, ใต้ขอบกางเกงใน และสะดือ เพื่อให้มีโอกาสที่จะมองเห็นแผลดูดไขมันได้น้อยที่สุด แต่ถ้าเป็นเคสไซซ์ใหญ่ ๆ หรือไขมันเยอะ ๆ หมออาจจะต้องเปิดแผลเพิ่มในบางตำแหน่ง เพื่อที่จะให้ดูดไขมันออกมาได้ครอบคลุมมากขึ้นนะครับ (หมอพิจารณาเป็นเคส ๆ ไป) อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกัวลเรื่องแผลนะครับ เพราะหมอมี After Care ดูแลแผลครบมาก สามารถเข้ามาเลเซอร์แผลได้ฟรีตลอด 1 ปีเลย
เทคนิคดูดไขมันพร้อมปรับผิวเฟิร์ม
เครื่องมือในการปรับรูปร่างของหมอไม่ได้มีแค่เครื่องดูดไขมันอย่างเดียว หมอยังมีเครื่องกระชับผิว และเครื่องอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งคนไข้หลาย ๆ คน มักกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน หมอเลยคิดค้นเทคนิคดูดไขมันผิวไม่ย้วยขึ้นมา สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเดิมอยู่แล้ว (คนที่เคยน้ำหนักตัวมาก, คนที่มีอายุแล้ว หรือคุณแม่หลังคลอด) และรวมไปถึงคนที่มีโอกาสที่จะมีผิวย้วยหลังดูดไขมันด้วยครับ
เทคนิคนี้ หมอจะมีการดูดไขมันออกไปก่อน และใช้เครื่อง J Plasma (เจพลาสมา) ในการยกกระชับผิวอย่างตรงจุดจากภายในครับ โดยการส่งท่อพลังงานเข้าไปใต้ผิว (ใช้แผลเดียวกับแผลดูดไขมันครับ) แล้วปล่อยพลังความร้อน 85°C ส่งไปที่เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดผิว เพื่อให้เส้นใยนี้กระชับหดตัวลงในทันที จากนั้นท่อพลังงานก็จะเย็นตัวลงภายในเสี้ยววิ (0.040 วินาที) ทำให้หมอสามารถรักษาได้อย่างเจาะจง และไม่เสี่ยงให้เกิดปัญหาผิวไหม้ใด ๆ ครับ นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการหลังดูดไขมันลงได้ด้วยนะครับ
ทำไมต้องโฟกัสดูดไขมันกับหมอไอซ์ Amara Clinic
อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน
หมอไอซ์เป็น KOL อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมันพลังน้ำงาน และอาจารย์แพทย์ด้านการเติมไขมันประจำประเทศไทยครับ โดยถูกแต่งตั้งจากบริษัท Technicalbiomed หรือบริษัทนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์รายใหญ่ของประเทศไทยครับ
ให้ความสำคัญกับห้องผ่าตัดดูดไขมัน
หมอลงทุนกับห้องผ่าตัดไปหลายสิบล้านเลยล่ะครับ เพื่อให้ห้องผ่าตัดนั้นได้มาตรฐานระดับสากล และเทียบเท่ากับห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในประเทศไทยจริง ๆ ซึ่งห้องผ่าตัดดูดไขมันที่เอมาร่าคลินิกจะมีความปลอดเชื้อสูงถึง 99.97 % ด้วยระบบกรองอากาศ HEPA ที่ดีที่สุด, ระบบควบคุมอากาศ ความดัน ความชื้น, ระบบ Pipeline, ระบบระบายแก๊สส่วนเกิน, ระบบไฟฟ้าสำรอง, เครื่องมือฉุกเฉินครบตามมาตรฐานโรงพยาบาล และอื่น ๆ ตามมาตรฐาน
เครื่องมือครบครันและทันสมัยที่สุด
เครื่องดูดไขมันที่หมอเลือกมาใช้จะมีอยู่ทั้งหมด 3 เครื่องด้วยครับ ซึ่งแต่ละเครื่องเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด, ผ่านมาตรฐานการรับรองจากระดับสากล และใช้ในเคสที่แตกต่างกันไปครับ นอกจากเครื่องดูดไขมันแล้ว หมอก็มีเครื่องยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด (J Plasma) ที่ดีที่สุดในโลก, เครื่องนวดกระชับผิวหลังดูดไขมันที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Venus Legacy และรวมไปถึงเครื่อง HIFEM ที่ใช้สำหรับการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเฟิร์มกระชับด้วยครับ
- Vaser Smooth 2.2 เครื่องเวเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากอเมริกา (ใช้พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ระดับสูง)
- Body-jet เครื่องดูดไขมันที่อ่อนโยนที่สุด เอาไขมันไปเติมต่อได้ (ใช้พลังงงานน้ำค่อย ๆ เซาะเซลล์ไขมัน)
- Ultra Z เครื่องดูดไขมันยอดฮิตจากประเทศเกาหลี (ใช้พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ในระดับปานกลาง)
- J Plasma เครื่องกระชับผิวที่ดีและเห็นผลชัดที่สุดในโลก (ใช้พลังงาน Helium Plasma + Radio Frequency)
- Venus Legacy เครื่องนวด RF กระชับสัดส่วน พร้อมสลายไขมันส่วนเกิน (ใช้พลังงาน Radio Frequency แบบพิเศษ)
- HIFEM เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อแบบเร่งด่วน ช่วยปั้นซิกแพค, Sexy Line และยกกระชับก้นเฟิร์ม
มีทีมวิสัญญีแพทย์วิชาชีพและพยาบาลวิชาชีพ
เอมาร่าคลินิกมีทั้งการดูดไขมันแบบยาชาและยาสลบเลยครับ (ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหมอกับความต้องการของคนไข้) ซึ่งทุกเคสที่ดูดไขมันด้วยยาสลบ จะมีการใช้ยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของคนไข้นะครับ ไม่ได้ใช้พยาบาลในการวางยาสลบหรือเป็นตัวหมอเอง เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ ภายในห้องผ่าตัดก็ต้องมีเครื่องมือฉุกเฉินและยาฉุกเฉินตามมาตรฐานโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน
การนับตำแหน่งดูดไขมันไม่เหมือนใคร
หมอเชื่อว่าคนที่สนใจในการดูดไขมันทุกคน จะต้องมีการเปรียบเทียบราคาดูดไขมันจากหลาย ๆ คลินิกก่อน ซึ่งจะทำให้เห็นว่าบางคลินิกเริ่มต้นที่ 3,999 บาทก็มี หรือหลักหลายหมื่นบาท หมออยากจะอธิบายให้เข้าใจกันว่าแต่ละคลินิกมีการนับตำแหน่งดูดไขมันไม่เหมือนกันนะครับ เลยทำให้คนไข้สับสนและเอาราคาจากทุกคลินิกมาเทียบกันนั่นเอง
การนับตำแหน่งดูดไขมันที่เอมาร่าคลินิก (ต่อ 1 ตำแหน่ง)
- ดูดไขมันรอบต้นแขน + ดูดไขมันรอบหัวไหล่
- ดูดไขมันรอบเอวเอส + ดูดไขมันปีกหลัง
- ดูดไขมันหน้าท้อง ด้านบน + ด้านล่าง
- ดูดไขมันต้นขาด้านนอก + ต้นขาด้านหลัง
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน + ต้นขาด้านหน้า
ดังนั้น ของหมอจะเหมารอบบริเวณเลยครับ ส่วนที่อื่นที่มีราคาถูกอาจจะเป็นเพราะเค้านับจุดดูดไขมันแบบย่อยเล็ก ๆ เช่น นับเป็นจุด หรือนับด้วยฝ่ามือ เป็นต้น อย่างเอวหน้า, เอวหลัง, เอวซ้าย, เอวขวา, ขาใน, ขานอก, ขาหน้า, ขาหลัง, ท้องบน, ท้องล่าง, ปีกหลัง, แขนล่าง, แขนหน้า และอื่น ๆ อีกมากมายเลยล่ะครับ ดังนั้นต้องสอบถามให้แน่ใจนะครับ
เครื่องมือ-อุปกรณ์มีคุณภาพสูง
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องผ่าตัด, ใช้สำหรับการทำความสะอาดเครื่องมือผ่าตัด, After Care หรือรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในคลินิก หมอเลือกแต่รุ่นที่ดีที่สุดมาแน่นอนครับ สำหรับหมอเอง หมอคิดว่าถ้าเราเลือกเครื่องมือที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรอง และปลอดภัย มันจะเป็นผลดีสำหรับคนไข้และสำหรับตัวหมอเองด้วยเช่นกัน พอภาวะแทรกซ้อนน้อย หรือผลลัพธ์เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คนไข้ก็จะได้หุ่นสวย ๆ และแฮปปี้เร็ว ๆ ครับ
รับประกันผลงานหลังดูดไขมันทุกเคส
ทุกเคสที่ดูดไขมันกับหมอ หมอจะมีการรับผิดชอบผลงาน การันตีการลดไซซ์ และรับประกันเคสตลอดจน 6 เดือนเลยนะครับ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นหลังดูดไขมัน หมอก็พร้อมที่จะรับผิดชอบและยินดีดูแลจนกว่าสัดส่วนจะเข้าที่สวยครับ
สรุป
หมอดีใจนะครับ ที่หมอตัดสินใจไม่ผิดในการเลือกโฟกัสดูดไขมัน-เติมไขมัน จนคนไข้ให้การยอมรับอย่างมากมาย (รวมไปถึงเว็บไซต์และบริษัทต่าง ๆ ด้วยนะครับ) หมอให้สัญญานะครับว่าคนไข้ของหมอทุกเคสจะต้องได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด ผลข้างเคียงน้อยที่สุด และปลอดภัยที่สุดเลยครับ ใครที่อยากดูดไขมันไม่ต้องกังวลว่าหมอจะทิ้งคนไข้นะครับ การันตีทั้งผลลัพธ์หลังทำ และมีการดูแลหลังดูดไขมันเป็นอย่างดีแน่นอน! (ปรึกษาปรับรูปร่างกับหมอได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ)
หมอเป็นเจ้าของคลินิกเอง ทุกอย่างที่ใช้ภายในคลินิกหมอคัดเลือกมาเองกับมือ ไม่ใช่นัดธุรกิจที่เปิดคลินิกและจ้างแพทย์มาดูดไขมันนะครับ ถึงเราจะไม่ใช่คลินิกที่มีราคาดูดไขมันถูกที่สุด แต่เรายึดมั่นที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด ปลอดภัยที่สุด สำหรับคนไข้ของเราทุกเคส และเราจะไม่ยอมลดมาตรฐานอย่างแน่นอน เราให้คำมั่นว่า ทุกเคสที่เข้ามาดูดไขมันหรือเติมไขมันกับ Amara Clinic จะเป็นเคสที่จะต้องสวย ปลอดภัย และเห็นผลจริงในทุกเคสครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic