ข้อควรรู้ก่อนทำสวย! ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ภาพปก

ใครอยากรู้ว่าฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง? มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย! หมอพร้อมตอบ! (พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง แพทย์ประจำ Amara Clinic) อย่างที่เรารู้กันว่าฟิลเลอร์เป็นตัวช่วยยอดนิยม สำหรับคนที่อยากให้ใบหน้าดูอ่อนหวานละมุนขึ้น หมอเชื่อว่าคนหนุ่มสาวในยุคนี้ มีอยู่น้อยมากที่ไม่รู้จักฟิลเลอร์ค่ะ เพราะฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้าให้เป๊ะปังขึ้นได้แบบทันตาเห็น หนำซ้ำยังไม่ต้องทนเจ็บกับการศัลยกรรม ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นหลังฉีด และไม่ต้องดูแลตัวเองเยอะแยะให้ยุ่งยากเลย

แต่การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วเห็นผลได้อย่างถาวรหรือตลอดชีวิต เหมือนกับการฉีดโบท็อกซ์นั่นแหละค่ะ ที่เห็นผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าอยากให้ความเป๊ะคงอยู่ตลอด เราต้องหมั่นเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปอย่างต่อเนื่อง ตามระยะเวลาที่เหมาะสมหรือหลังจากที่ฟิลเลอร์เดิมมันสลายหายไปแล้ว ซึ่งคำถามที่คนไข้มักจะถามหมออยู่บ่อย ๆ หรืออยากรู้กันม๊ากกกก ก็คือ.. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? และต้องอธิบายยาวมาก เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกันค่ะ นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมหมอถึงอยากเขียนอธิบายเรื่องนี้ในรูปแบบของบทความให้ทุกคนได้อ่านกันนั่นเอง ถ้าอยากรู้แล้วว่าฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน เราไปดูคำตอบกันเลย! ^^

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? ถ้าจะระบุเจาะจงไปเลยอาจทำได้ยาก เนื่องจากจะขึ้นอยู่กับว่าฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน, ปริมาณของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป, ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์, เทคนิคในการฉีดของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยเช่นกันค่ะ โดยปกติแล้วฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน แรก ๆ จะมีความอวบอิ่มเต่งตึงมาก เมื่อระยะเวลาผ่านไป ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตัวและหายไปโดยธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย และไม่เป็นอันตรายใด ๆ 

แต่ถ้าคุณไปฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือสารเหลวมา อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ฟิลเลอร์จะไม่สลายไป แต่จะส่งผลเสียต่อร่างกายและกัดกินเนื้อในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม จากนั้นก็จะไหลห้อยย้อนลงมาทำให้ใบหน้าผิดรูปได้ หากคุณรู้ตัวว่าไปฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกมาก ๆ จนน่าตกใจมา (ต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปค่อนข้างมาก) หรือไปฉีดฟิลเลอร์ฉีดสารเข้าหน้ากับหมอกระเป๋า แนะนำให้รีบไปฉีดสลายหรือขูดซิลิโคนเหลวออกด่วน ก่อนที่จะสายเกินแก้ค่ะ

ฉีดปากกระจับ

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ไม่สำคัญเท่ากับว่าใครเป็นผู้ฉีดและตัวยาเป็นยาแท้หรือไม่ ในบางครั้งนั้น แม้คุณจะฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์จริง โดยใช้ตัวยาแท้ แต่ก็ใช่ว่าผลลัพธ์จะออกมาสวยงามเป๊ะปังอย่างที่ต้องการได้ ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง มีประสบการณ์สูง และมีรีวิวผลลัพธ์จากผู้ใช้บริการจริงให้ชมร่วมด้วย

หากแพทย์ไม่ชำนาญพอ อาจจะฉีดฟิลเลอร์ผิดจุด ผิดตำแหน่ง หรือผิดชั้นผิวได้ ตรงนี้ก็เป็นข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาแย่อย่างที่คิดได้เหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน, มีก้อนแข็งใต้ผิวหลังฉีดฟิลเลอร์, ปั้นทรงไม่เป็นทำให้คางเบี้ยว หรือหน้าทั้งสองข้างไม่เท่ากัน เป็นต้นค่ะ

รู้หรือไม่!? ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน เทคนิคก็มีส่วน!

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? ออกมาสวยหรือเป็นก้อน ปังหรือพัง เทคนิคของแพทย์ก็มีส่วนมาก ๆ เลยค่ะ เนื่องจากทักษะ ประสบการณ์ วิธีวางฟิลเลอร์ การปั้นทรงฟิลเลอร์ หรือความถนัดของแพทย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกันได้ แม้จะใช้ฟิลเลอร์ตัวเดียวกันและฉีดในตำแหน่งเดียวกันก็ตาม นอกจากนี้ จุดประสงค์ในการฉีดฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน ยังส่งผลให้ระยะเวลาการคงสภาพของฟิลเลอร์จึงแตกต่างกันไปด้วย อย่างบางคนเน้นเติมเต็มร่องให้อิ่มฟู บางคนเน้นลิฟติ้งให้หน้าดูเรียวกระชับขึ้น หรือบางคนอาจจะเน้นไปที่การปรับรูปหน้าก็ได้

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่ Amara Clinic เลือกใช้?

สำหรับที่ Amara Clinic เราจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ Restylane จากประเทศสวีเดน ยี่ห้อยอดนิยมที่ไม่มีใครไม่รู้จัก! มีเทคโนโลยี XpresHAn ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความแน่น ยืดหยุ่น คงรูปได้ดี และฟิลเลอร์ Juvederm จากอเมริกา ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยี Vycross ที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติสูง + เทคโนโลยี Hylacroc ที่มีความทนทานต่อการขยับของผิวหนังสูง โดยฟิลเลอร์ทั้งสองยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่แพทย์ทั่วโลกให้ความไว้วางใจ ผ่านการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา

ฉีดฟิลเลอร์ Restylane อยู่ได้นานแค่ไหน?

    • Restylane Classic (12 เดือน) เหมาะสำหรับการฉีดลดริ้วรอยในระดับปานกลาง-สูง ฉีดลดร่องตื้นบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา รอยย่นระหว่างคิ้ว หรือปาก 
    • Restylane Refyne (12 เดือน) มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยปรับให้สภาพผิวดูอ่อนกว่าวัย เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มในบริเวณร่องแก้ม ปาก หรือในเคสที่ต้องการยกมุมปาก
    • Restylane Volyme (18 เดือน) ถ้าอยากให้ความอิ่มฟูหรือวอลุ่ม แนะนำให้ใช้รุ่นนี้เลยค่ะ เนื้อมีความนิ่มละมุนสูง เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม แก้มตอบ ปาก และมุมปาก
    • Restylane Defyne (18 เดือน) เนื้อมีความนิ่มอย่างพอดี มีความยืดหยุ่นพอเหมาะ จัดอยู่ในกลุ่มที่คงตัวสูง เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่เคยเป็นกระดูกมาก่อน เช่น โหนกแก้ม ร่องแก้ม หรือคาง
    • Restylane Vital (12 เดือน) เน้นเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เหมาะกับการแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องต่าง ๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะริ้วรอยหน้าผากหรือร่องใต้ตา
    • Restylane Kysse (12 เดือน) เนื้อเนียนละเอียด มีความคงตัวสูง สามารถปรับสีปากให้ดูสดใสอมชมพูขึ้นได้ เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยเฉพาะ
    • Restylane Vital Light (6-12 เดือน) เนื้อละเอียด อนุภาพเล็ก มีโมเลกุลเบา เน้นฟื้นฟูสภาพผิวให้ชุ่มชื้นเต่งตึง เหมาะกับการฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดในบริเวณชั้นผิวตื้น ๆ อย่างริมฝีปากหรือใต้ตา
    • Restylane Perlane Lyft (12 เดือน) เนื้อแข็ง ไม่อิ่มฟู มีความอยู่ทรงคงตัวสูง ใช้สำหรับฉีดฟิลเลอร์คาง ใต้ตา หรือจมูก

ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นานแค่ไหน?

    • Juvederm Volite (8-12 เดือน) เน้นการปรับสภาพผิวให้นุ่มเนียน อิ่มฟู ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี พร้อมกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียนขึ้น เหมาะกับการฉีดลดเลือนริ้วรอย ฉีดเพื่อฟื้นฟูผิว โดยสามารถฉีดได้ทุกบริเวณตามที่ต้องการ
    • Juvederm Volbella (12 เดือน) เนื้อนุ่มนิ่ม เนียนละเอียด ไม่เป็นก้อน อุ้มน้ำ สามารถกลืนกับผิวได้ดี ทำให้มีความเป็นธรรมชาติสูง เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มใต้ตาและริมฝีปาก
    • Juvederm Volux (18-24 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แต่มีความกลืนกันกับผิวได้เป็นอย่างดี คงรูปได้ดี ใช้ในการยกกระชับได้ เหมาะกับการฉีดเพื่อทดแทนกระดูก เช่น ฉีดคาง ฉีดโหนกแก้ม จมูก เป็นต้น
    • Juvederm Voluma (18 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็งรองลงมาจาก Volux เนื้อเนียนละเอียด ปั้นทรงง่าย คงรูปได้ดี มีความละมุนดูธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดเติมในบริเวณร่องแก้มและยกมุมปาก
    • Juvederm Volift (12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อเนียนนุ่ม นิ่มกำลังพอดี ไม่ไหลย้อนง่าย มีความคงรูปเป็นทรงในระดับหนึ่ง เหมาะสมกับการฉีดเติมเต็มวอลุ่มของริมฝีปากให้อวบอิ่มขึ้น ฉีดร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ขมับ แก้มตอบ และใต้ตา
    • Juvederm Ultraplus (12 เดือน) เนื้อเจลมีความแน่นฟู อุ้มน้ำได้ดีมาก มีความคงตัวสูง เหมาะกับการฉีดเติมในบริเวณที่ต้องการความอิ่มฟู เช่น ร่องแก้ม ขมับ แก้มตอบ เป็นต้น

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  • ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ดูดซึมน้ำเข้าไปและมีความอิ่มฟูดูสวยงามขึ้น
  • ไม่สัมผัส กด บีบ หรือถูในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ฟิลเลอ์รที่หมอปั้นทรงเปลี่ยนรูปได้ หรือฟิลเลอร์อาจจะเคลื่อนที่ไปจากที่เดิม ทำให้ไม่สวยงามได้ค่ะ ทั้งนี้ รวมไปถึงการเอามือเท้าคาง การสวมแว่นตา และการสวมหมวกต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
  • หากฉีดฟิลเลอร์ปากมา ไม่ควรรับประทานอาหารร้อน เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายไปอย่างรวดเร็ว (มีคนเคยถามหมอนะคะว่า “ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนกันแน่ เพราะเห็นเพื่อนไปฉีดปากมา ไม่กี่เดือนก็หายแล้วค่ะ” ซึ่งในกรณีของเคสนี้คือเพื่อนคนไข้ไปทานหมูกะทะ ชาบู ปิ้งย่างบ่อยมาก จึงทำให้ฟิลเลอร์มันสลายไปนั่นเอง)
  • งดเลเซอร์ ซาวน่า หรือทำหัตถการที่ต้องโดนความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ – 1 เดือน เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่และอยู่กับเราไปนาน ๆ ไม่สลายไปเร็วกว่าที่คาดไว้

สอบถามฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

บทความที่เกี่ยวข้อง

สุดยอดอาหารแคลน้อยครบ 3 มื้อ กินอะไรดีมาดูกัน!

อ่านเพิ่มเติม

BMI คืออะไร
คุณกำลังอ้วนหรือผอม
มาคำนวณกัน!

อ่านเพิ่มเติม

มื้อเย็นกินอะไรดี?
รวมเมนูอาหารคลีน
กินง่าย แคลน้อย!

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

         หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยและตอบคำถามเรื่องฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ หมอขอสรุปอีกครั้งว่า ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ (ยิ่งมีประสิทธิภาพ ยิ่งราคาสูง ระยะเวลาก็จะนานขึ้น), ตำแหน่งที่ฉีด, เทคนิคของแพทย์, ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ค่ะ คนบางกลุ่มค่อนข้างดื้อนะคะ โดยเฉพาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบสังสรรค์บ่อย ๆ ฉีดแล้วไปดื่มแอลกอฮอล์เลย หนำซ้ำบางคนยังสูบบุหรี่อีก จึงทำให้ฟิลเลอร์มันไม่ค่อยติดนาน สลายไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการฉีดซ้ำบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย