หมอไอซ์ Amara Clinic พามาเคลียร์ข้อสงสัย! เรื่องการดูดไขมันผู้ชาย สามารถทำได้จริงไหม? หมอขอเกริ่นก่อนนะครับ ว่าในสมัยก่อน สังคมยังไม่เปิดกว้างอย่างทุกวันนี้ การศัลยกรรมหรือการดูดไขมันนั้น มักจะถูกมองว่าผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้ สำหรับผู้ชายที่มีไขมันส่วนเกิน ก็มักจะถูกสังคมกดดันให้ออกกำลังกายแทน แต่ในปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้วครับ
ตอนนี้ หนุ่ม ๆ หลายคนก็หันมาศัลยกรรมกันมากขึ้น ซึ่งการดูดไขมันผู้ชาย ก็เป็นการศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ เลยครับ สำหรับหนุ่ม ๆ บางคนที่มีไขมันส่วนเกิน ในบางครั้งการออกกำลังกายก็ไม่ได้ช่วยให้สัดส่วนที่กังวลใจมีขนาดเล็กลงได้เลย การดูดไขมันผู้ชาย หรือการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุดครับ
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย คืออะไร? ผู้ชายดูดไขมันได้ด้วยเหรอ?
การดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย หรือการดูดไขมันผู้ชาย (Liposuction For Men) เป็นการจำกัดไขมันส่วนเกินให้สัดส่วนเล็กลง ปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น สมส่วนขึ้น และช่วยให้มีความมั่นใจในรูปร่างตัวเองมากขึ้น เหมือนกับการดูดไขมันในเคสผู้หญิงนี่แหละครับ แต่การดูดไขมันผู้ชายอาจจะใช้ระยะเวลาที่นานกว่าและยากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย เนื่องจากลักษณะของร่างกายไม่เหมือนกับผู้หญิง ชั้นไขมันจะหนาและแน่นกว่ามาก แพทย์จึงต้องมีเทคนิคในการดูดไขมันผู้ชายโดยเฉพาะ และต้องเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมด้วยครับ
โดยการดูดไขมันนั้น จะต้องอาศัยเครื่องมือ-อุปกรณ์เข้ามาช่วยในการสลายไขมัน เซาะเซลล์ไขมัน และดูดไขมันออกมากำจัดทิ้งไป ซึ่งเครื่องมือหลัก ๆ ที่ใช้ในการดูดไขมันหรือเครื่องดูดไขมันในปัจจุบันนั้น มีให้เลือกใช้หลายเครื่องมาก แต่ละเครื่องก็้จะมีข้อดี-ข้อเสีย รวมไปถึงความเหมาะสมกับเคสดูดไขมันที่มีลักษณะแตกต่างกันไป สำหรับที่ Amara Clinic จะมีเครื่องดูดไขมันด้วยกันถึง 4 เครื่อง และอีก 1 นวัตกรรมสลายไขมันพร้อมกระชับผิวในหนึ่งเดียว! มาดูกันครับว่าเคสดูดไขมันผู้ชายเหมาะกับเครื่องดูดไขมันเครื่องไหน และแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไร?
1.เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-jet
Body-jet เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังน้ำในการสลายเซลล์ไขมัน ทำให้มีความอ่อนโยนสูง จึงทำให้เซลล์ไขมันไม่ตาย และสามารถนำไปเติมเต็ส่วนอื่นต่อได้ เช่น หน้าผาก ใต้ตา ทั่วใบหน้า หลังมือ สะโพก ฯลฯ แต่ด้วยความที่ใช้พลังน้ำ จึงทำให้ไม่เหมาะกับการดูดไขมันผู้ชายเท่าไหร่นัก เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มีชั้นไขมันที่แน่นหนากว่าผู้หญิง อีกทั้งยังมีพังผืดอยู่เยอะด้วย หมอจะใช้เครื่อง Body-jet สำหรับเคสดูดไขมันผู้ชายที่ต้องการเติมไขมันด้วยเท่านั้น หรือใช้ร่วมกับเครื่องดูดไขมันชนิดอื่น
2.เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียง Vaser Smooth 2.2
Vaser Smooth 2.2 เครื่องดูดไขมันเวเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากอเมริกา เหมาะกับเคสดูดไขมันผู้ชายมากที่สุด เนื่องจากมีค่าพลังงานความร้อนที่ค่อนข้างสูง และมีความเสถียรมาก โดยความร้อนที่ใช้ในการสลายไขมันนั้น จะเกิดจากพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ครับ
3.เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียง Ultra Z
Ultra Z เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงที่ได้รับความนิยมสูงมากในเกาหลีใต้ คล้ายคลึงกับเครื่อง Vaser Smooth 2.2 แต่มีค่าพลังงานความร้อนที่ต่ำกว่า เหมาะกับเคสดูดไขมันผู้ชายที่มีไซซ์เล็ก-กลาง หรือเคสดูดไขมันหน้าท้องที่หน้าท้องไม่ใช่บิ๊กไซซ์
4.เครื่องดูดไขมันพลังงานกล MicroAire
MicroAire เป็นเครื่องดูดไขมันพลังงานกล (PAL) ไม่มีการใช้พลังงานที่ทำให้เกิดความร้อน โดยพลังงานกลนี้ จะทำให้ท่อดูดไขมันขยับเป็นจังหวะ แล้วทำให้เซลล์ไขมันแตกออกจากกัน จุดเด่นของเครื่องนี้คือมีหัวของท่อดูดไขมันอยู่สองแบบ เป็นหัวปลายทู่กับปลายแหลม จึงสามารถดูดไขมันได้ละเอียดมากขึ้น สามารถเก็บไขมันในตำแหน่งที่ดูดได้ยากอย่างแผ่นหลังได้ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับการนำมาเหลาร่องหรือซิกแพคอีกด้วย โดยส่วนใหญ่หมอจะใช้เสริมกับเครื่องดูดไขมันชนิดอื่น ๆ ครับ
เทคนิคและเครื่องมือในการดูดไขมันของเคสผู้ชายและผู้หญิงไม่เหมือนกัน แม้แพทย์จะดูดไขมันผู้หญิงออกมาได้สวย แต่ก็ใช่ว่าจะดูดไขมันผู้ชายได้ออกมาสวยหรือมีผลลัพธ์เช่นเดียวกัน ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจไปดูดไขมันที่ไหนดี อย่าลืมดูรีวิวดูดไขมันผู้ชายก่อนว่าเป็นอย่างไร? ผลลัพธ์ดูสมส่วนไหม ดูธรรมชาติรึเปล่า รวมไปถึงการดูเรื่องของเครื่องมือและมาตรฐานของห้องผ่าตัดด้วย
5.เครื่องกระชับผิวพร้อมสลายไขมัน BodyTite Pro
BodyTite Pro เทคโนโลยีที่มาแก้ปัญหา 2 เรื่อง คือ ช่วยสลายไขมันและกระชับผิวไปได้ในคราวเดียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัวดังจากตระกูล BodyTite ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเครื่องรุ่นเก่า ด้วยพลังงานของคลื่นความถี่วิทยุแบบ Bipolar ที่ส่งผ่านพลังงานผ่านหัวอุปกรณ์ด้านบนและด้านล่าง ซึ่งให้ความร้อนที่ 40-60 องศาเซลเซียส โดยตัวหัวอุปกรณ์ด้านล่าง (เข็มหัวทู่) ที่ถูกสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าหัวอุปกรณ์ด้านบนผิวหนัง มีผลให้สลายไขมันได้ พร้อมกับการกระชับผิว ส่วนพลังงานจากหัวอุปกรณ์ด้านบนที่แนบกับผิวด้านนอก จะทำให้ผิวหนังที่เคยเหี่ยวย่น กลับมาตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น โดยสามารถใช้เครื่อง BodyTite มาสร้างร่องกล้ามเนื้อหน้าท้องของผู้ชายได้ครับ นอกจากนี้ ในคนที่อยากทำ BodyTite แต่มีไขมันสะสมค่อนข้างเยอะ มีผิวหย่อนคล้อยในระดับไม่รุนแรง หมออาจพิจารณาการดูดไขมันร่วมด้วยได้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- การดูดไขมันแบบวางยาสลบดีไหม? อันตรายรึเปล่า?
- เคลียร์พุงย้วย ลดหน้าท้องผู้ชาย วิธีไหนดี?
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายทำได้ แต่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน!
เราก็ทราบกันแล้วนะครับว่า ผู้ชายสามารถดูดไขมันได้ และสามารถดูดได้ทุกตำแหน่งที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันต้นขา, ดูดไขมันเหนียง หรือดูดไขมันน่องก็ตาม แต่บริเวณที่เป็นตำแหน่งยอดฮิตของการดูดไขมันผู้ชายคือ ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายครับ
แต่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะสามารถดูดไขมันได้ เพราะต้องผ่านการประเมินโดยหมอ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนนะครับ ว่าสัดส่วนที่ใหญ่และเป็นกังวลนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อประเมินการรักษาอย่างตรงจุดและเหมาะสม
หากเกิดจากไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ก็สามารถดูดไขมันผู้ชายกำจัดทิ้งไปได้, ถ้ามีสภาพผิวที่ย้วย หย่อนคล้อย หรือเป็นเคสที่เคสมีน้ำหนักตัวมาก แล้วลดน้ำหนักอย่างกระทันหัน (ลดน้ำหนักผิดวิธี) ก็อาจต้องใช้การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) หรือยกกระชับผิวด้วย J Plasma แทน นอกจากนี้ยังเกิดจากกรณีอื่นที่ทำให้ไม่สามารถดูดไขมันได้อีกด้วย กรณีดังกล่าวคือกล้ามเนื้อใหญ่ และมีไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) นั่นเองครับ
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เป็นไขมันที่สะสมอยู่ที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ไม่ก่อให้เกิดความอันตรายกับร่างกาย หรืออวัยวะใด ๆ แต่จะส่งผลโดยตรงกับความสวยงามของสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นพุงยื่น พุงปลิ้น ตัวใหญ่ แขนใหญ่ ขาใหญ่ ฯลฯ ล้วนเกิดจากไขมันใต้ชั้นผิวหนังนี้ทั้งสิ้นเลยครับ ไขมันใต้ชั้นผิวหนังสามารถกำจัดออกไปได้โดยการดูดไขมันผู้ชายครับ
ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
ไขมันในช่องท้อง เป็นภัยเงียบที่มีความอันตรายมาก และยังกำจัดออกไปได้ยากอีกด้วยครับ เพราะมันจะเข้าไปสะสมและพอกอยู่ตามอวัยวะภายในของเราที่อยู่ในช่องท้อง จากนั้นจะส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคตับอักเสบ หรือมะเร็งตับ เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันในช่องท้อง ส่วนมากแล้วมักเกิดกับหนุ่ม ๆ ที่ชอบการสังสรรค์เป็นชีวิตจิตใจ หรือกินอาหารในปริมาณมาก โดยไม่มีการออกกำลังกายร่วมด้วย คนที่มีไขมันในช่องท้องนั้น ยิ่งมีมาก หน้าท้องยิ่งยื่นมาก แพทย์จะไม่สามารถดูดไขมันในช่องท้องออกมาได้ ตัวคนไข้เองจะต้องอาศัยการเผาผลาญของร่างกายเท่านั้น ดังนั้นแม้จะดูดไขมันหน้าท้อง กำจัดไขมันใต้ชั้นผิวหนังไปแล้ว ก็ควรออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันในช่องท้องร่วมด้วย เพื่อรูปร่างและสุขภาพที่ดีขึ้นครับ
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย เหมาะกับใคร?
- คนที่ออกกำลังกายแล้วสัดส่วนไม่ลด
- คนที่ไม่สะดวกออกกำลังกาย แต่อยากลดสัดส่วน
- คนที่มีไขมันสะสมตามจุดต่าง ๆ และเป็นกังวล
- คนที่ต้องการให้รูปร่างดีขึ้น มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น
- คนที่ต้องการลดไซซ์เสื้อผ้า ลดรอบเอว
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย น้ำหนักลดไหม?
การดูดไขมันผู้ชาย ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดสัดส่วน หรือแก้ไขปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดครับ เพื่อให้บริเวณดังกล่าวมีขนาดเล็กลง และรูปร่างโดยรวมดูดีขึ้น เนื่องจากมวลไขมันนั้น แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่กลับมีน้ำหนักที่เบามาก เมื่อเทียบกับกล้ามเนื้อที่มีขนาดเดียวกัน ไขมันจึงมีขนาดที่ใหญ่กว่าหลายเท่าตัว
ดังนั้นการดูดไขมัน ไม่ได้ดูดเพื่อให้น้ำหนักลดลง แต่เป็นการดูด เพื่อให้สัดส่วนเล็กลง ลดไซซ์ลงนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในเคสที่ดูดไขมันออกไปในปริมาณมาก เช่น การดูดไขมันทั้งตัว ก็มีโอกาสที่จะทำให้น้ำหนักลงได้เช่นกัน (อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันน้ำหนักลดไหม?)
ความแตกต่างระหว่างไขมันกับกล้ามเนื้อหน้าท้อง
จริง ๆ แล้ว คนเราทุกคนมีกล้ามหน้าท้องกันอยู่แล้ว แต่ว่าจะมองเห็นได้ชัดเจนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน และสภาพผิวบริเวณหน้าท้อง ว่ามีความหย่อนคล้อยหรือไม่ การดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย ไม่เหมือนกับการดูดไขมันซิกแพค เพราะการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย เราจะเน้นการกำจัดไขมันออกไป เพื่อให้หน้าท้องมีขนาดเล็กลง และช่วยให้คนไข้ใส่สวมเสื้อผ้าได้สบายมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการดูดไขมันเพื่อลดไซซ์
สำหรับการดูดไขมันซิกแพคนั้น จะเน้นดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการให้เกิดเป็นร่องกล้ามเนื้อ หรือกล้ามหน้าท้องขึ้นมา ในเคสที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย หรือผิวย้วย การดูดไขมันอย่างเดียวอาจจะไม่พอ จึงต้องอาศัยเครื่อง J Plasma ในการยกกระชับผิวให้เต่งตึงร่วมด้วยครับ
J Plasma นวัตกรรมยกกระชับผิวจากอเมริกา ดูดไขมันแล้วผิวไม่ย้วย
J Plasma (เจพลาสมา) ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างตรงจุด แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้เป็นอย่างดี เทียบผลลัพธ์ได้ 80% ของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง โดยที่ไม่ต้องมีแผลเป็นยาว และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นานเลยครับ
J Plasma จะใช้พลังงานฮีเลียมพลาสมา ร่วมกับ พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ในการสร้างความร้อน และส่งไปยังบริเวณที่ต้องการทำกระชับ เมื่อพลังงานสัมผัสกับเนื้อเยื่อ ก็จะทำให้ผิวหดตัวลงในทันที และช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้นหลังทำ 10-30% หลังจากนั้นจะค่อย ๆ กระชับมากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเห็นผลชัดเจนในช่วง 3-6 เดือน
J Plasma เหมาะกับคนที่มีผิวย้วย พุงย้วย หรือผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะ เช่นคนที่เคยอ้วน แล้วลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี ทำให้ผิวไม่สามารถกระชับตัวได้ทัน จึงเกิดเป็นผิวหนังส่วนเกินออกมา
Morpheus8 ทางเลือกใหม่ของคนผิวยับมีรอยแตกลาย
Morpheus8 เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่หมออยากแนะนำ สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องผิวยับ ไม่เรียบเนียน ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเยอะ มีรอยแผลเป็น หรือมีรอยแตกลาย ซึ่งการรักษาปัญหาผิวด้วย Morpheus8 จะเป็นการรักษาจากภายนอก ไม่มีการเปิดแผลใด ๆ สามารถรักษาได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัวเลย
Morpheus8 จะใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (RF : Radio Frequency) ส่งผ่านเข็มทองคำขนาดเล็ก 24-40 เข็มลงไปใต้ชั้นผิวทุกชั้น รวมไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้วย (สามารถปรับระดับการลงลึกของพลังงานได้อย่างเจาะจง) ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่ มีการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนใหม่ ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้รอยแตกลาย รอยยับ หรือรอยแผลเป็นดีขึ้นนั่นเอง
ขั้นตอนในการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย
- แพทย์ประเมินการรักษา พร้อมพูดคุยความคาดหวังของคนไข้
- แพทย์ออกแบบรูปร่างและสัดส่วน ตามที่คนไข้ต้องการ แบบ Case by case
- รับประทานยาและรับยาฆ่าเชื้อก่อนดูดไขมัน
- สำหรับเคสที่เลือกดูดไขมันแบบวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ ทางวิสัญญีแพทย์ก็จะมีการพูดคุย ให้ยานอนหลับแก่คนไข้ และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดการทำหัตถการ
- แพทย์เปิดแผลผ่าตัด เพื่อทำการสลายไขมัน และดูดไขมันออกมา
- เมื่อดูดไขมันเสร็จแล้ว จะมีการรีดน้ำ เพื่อให้มีน้ำค้างอยู่ในร่างกายน้อยที่สุด
- แพทย์จะเย็บแผลผ่าตัด 1 เข็ม เพื่อให้น้ำสามารถระบายออกมาจากร่างกาย โดยผ่านบาดแผลได้
- สวมชุดกระชับหลังดูดไขมันทันทีหลังจากที่ดูดไขมันเสร็จ
- คนไข้นอนพักผ่อน ในห้องพักฟื้นที่คลินิก เพื่อป้องกันอาการหน้ามืด เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว จากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้เลย
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันผู้ชาย ช่วง 1 เดือนแรก
1.รับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งเซ็ตยาจะประกอบไปด้วยยาฆ่าเชื้อ, ยาลดการอักเสบ, ยาลดบวม และยาแก้ปวด โดยให้รับประทานยาฆ่าเชื้อติดต่อกันทุกวันจนหมด และรับประทานยาแก้ปวด ยาลดบวม เมื่อมีอาการ และถ้าต้องการให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น แนะนำให้ทาน Vitamin B Complex และ Vitamin C เพิ่ม
2.ดื่มน้ำวันละ 1-2 ลิตร เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายและเพื่อให้ร่างกายขับน้ำเกลือและยาชาที่ค้างอยู่ใต้ผิวออกมาทางเหงื่อ ทางปัสสาวะ และเพื่อให้อาการบวมลดลง หากมีอาการอ่อนเพลียสามารถดื่มเกลือแร่เสริมได้ แต่ให้ดื่มในปริมาณน้อย เพราะอาจทำให้บวมเยอะขึ้นได้
3.ทำความสะอาดแผลทุกวัน ทำแผลด้วยยาฆ่าเชื้อและปิดแผลด้วยผ้าก๊อซเป็นประจำทุกวัน จนกว่าแผลจะแห้ง และพร้อมที่จะตัดไหมออกไป ซึ่งคนไข้สามารถเข้ามาทำที่เอมาร่าคลินิกได้ทุกวัน หากไม่สะดวก ก็สามารถทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ ด้วยเซ็ตอุปกรณ์ทำแผลที่ทางคลินิกให้ไป
4.ระวังไม่ให้แผลเปียกชื้น หากพบว่ามีเหงื่อออกเยอะจนทำให้แผลชื้น หรือแผลเปียกชื้น ให้รีบเปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่ทันที (ไม่แนะนำให้ใช้พลาสเตอร์แบบกันน้ำ) ควรงดการอาบน้ำไปก่อนจนกว่าจะตัดไหม ให้ใช้การเช็ดตัวทำความสะอาดแทน
5.งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลืและการสูบบุหรี่จะทำให้แผลหายช้า และมีโอกาสที่แผลจะติดเชื้อสูงขึ้นด้วย
6.งดรับประทานอาหารบางชนิด งดอาหารไม่สะอาด อาหารทะเล อาหารเค็ม ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีน้ำตาลสูง และงดสูบบุหรี่ด้วย เพราะจะทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงติดเชื้อ และงดยาหรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดด้วย เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ (Aspirin, Warfarin, Vitamin E, Fish oil และ Ginko)
7.สวมชุดกระชับอย่างสม่ำเสมอ ให้สวมชุดกระชับสัดส่วนวันละ 18-20 ชั่วโมง หลังจากใส่ไปแล้วประมาณ 4-6 ชั่วโมง แนะนำให้ปลดตะขอหรือถอดพักประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน จะขึ้นอยู่กับแต่ละเคสตามที่แพทย์แนะนำ
8.รับบริการ After Care ที่คลินิก การทำ After Care ต่าง ๆ เช่น การทำแผลตัดไหม, ฉายแสงลดบวม, นวดกระชับผิว, นวดสลายก้อนแข็ง หรือเลเซอร์ลดเลือนรอยแผล จะช่วยให้สัดส่วนเข้าที่เร็วขึ้นและเห็นผลลัพธ์ของการดูดไขมันชัดเจน
9.งดออกแรง 1 เดือน สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและยกของหนัก ประมาณ 1 เดือน เพื่อไม่ให้มีการบาดเจ็บมากขึ้น
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายราคาเท่าไหร่? ดูดไขมันผู้ชายราคาแพงไหม?
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชายราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,000 บาท / ตำแหน่งครับ ซึ่งดูดไขมันราคาเท่าไหร่นั้น ที่ Amara Clinic หมอจะคิดแบบเหมาบริเวณ สามารถประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นหรือสอบถามโปรโมชั่นกับเจ้าหน้าที่ ผ่านทาง LINE ได้เลยครับ
(ราคาดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย อัพเดทล่าสุด ปี 2566)
ตำแหน่งที่ดูดไขมัน | เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ | เครื่องดูดไขมันพลังความร้อน Vaser Smooth 2.2 , Ultra Z | ค่าวางยาสลบ |
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย | เริ่มต้น 39,900 | เริ่มต้น 25,000 | 25,000 |
หมายเหตุ : ราคาบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทางไลน์ Line : @amaraclinic เพื่อรับข้อมูลราคาและโปรโมชั่นเพิ่มเติม
BIG Promotion
ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก
จัดเต็ม 2 โปรใหญ่ คุ้มสะใจ ไม่จอง = พลาด!!
- 🎉โปรโมชั่นที่ 1 : ดูดไขมัน 2 ตำแหน่ง
รับส่วนลดดูดไขมันทันที 10,000 บาท - 🎉โปรโมชั่นที่ 2 : ดูดไขมัน 3 ตำแหน่ง
ฟรี! วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ มูลค่า 25,000 บาท
เลือกโปรโมชั่นไหนก็คุ้ม 😍
ลงคิวก่อน 28 ก.พ. 2566 เท่านั้น!
การันตีความปัง ต้องดูดไขมันที่ Amara Clinic ศูนย์ดูดไขมันเฉพาะทาง โดย KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน 🔥
สรุป
สรุปแล้ว ดูดไขมันผู้ชายสามารถทำได้ครับ แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสว่าจะเหมาะสมกับการรักษาแบบใด เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับแต่ละเคส แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Amara Clinic ครับ( ปรึกษาฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย) สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE @amaraclinic หรือช่องทางติดต่อด้านล่างนี้เลยครับ
หรือสำหรับใครที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าอกเยอะ หรือมีรักแร้ปลิ้นออกมา ทำให้ไม่มั่นใจ หมออาจจะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีอื่นแทนการดูดไขมันครับ วิธีอื่น ๆ ที่ว่าคือ การผ่าตัดหน้าอก ลดขนาดเต้านมส่วนเกิน และการผ่าตัดนมน้อย แก้ไขรักแร้ส่วนเกินครับ
ปรึกษาดูดไขมันผู้ชาย ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
บทความที่เกี่ยวข้องกับการดูดไขมันผู้ชาย
ดูดไขมันผู้ชาย ที่ Amara Clinic ดีไหม?
Amara Clinic เราเป็นศูนย์การสอนด้านการดูดไขมันและเติมไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ (Body-jet Education Center) โดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านการดูดไขมัน-เติมไขมัน พร้อมการันตีด้วยรางวัล The Most body-jet User หรือรางวัลคลินิกที่มีเคสดูดไขมันพลังน้ำมากที่สุดในประเทศไทย และ No. 1 in Asia of Procedures Done in 2020 คลินิกที่มีเคส J Plasma เยอะที่สุดในทวีปเอเชีย
- เครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน
- วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์
- After Care ดูแลครบครัน
- จำนวนเคสดูดไขมันเยอะที่สุดในไทย
- รีวิวดูดไขมัน – เติมไขมันเพียบ
- เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
- มีห้องพักฟื้นหลังดูดไขมัน
- เทคนิคดูดไขมันจากเกาหลี
- ออกแบบรูปร่าง เคสต่อเคส
เรายึดมั่นในเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เราใส่ใจดูแลรายละเอียดของทุกเคสทุกขั้นตอน ทั้งก่อนดูดไขมัน ระหว่างดูดไขมัน และการติดตามผลหลังดูดไขมัน อย่างเต็มที่ พร้อมบริการด้วยหัวใจที่เป็นมิตรกับทุกท่าน ดูแลเต็มที่ทุกเคส