ทำความรู้จัก ควินัวคือ? ช่วยลดน้ำหนักจริงไหม

ควินัว คือ

        สวัสดีค่าชาวสายเฮลตี้ทุกคน! วันนี้หมอมะปรางจาก AMARA จะมาชวนคุยเรื่องอาหารสุขภาพที่กำลังมาแรงสุด ๆ นั่นก็คือ ‘ควินัว’ นั่นเอง หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือเปล่าว่าควินัวมีดีอะไรบ้าง? นอกจากจะช่วยให้เรามีหุ่นปังแล้ว ยังช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงอีกด้วยนะ แต่ก่อนจะไปหาทานกันต้องมารู้จักกันก่อนค่ะว่า ควินัวคืออะไร ประโยชน์และข้อควรระวังมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันได้เลย!

 ควินัว คือ

ควินัวคืออะไร?


         ควินัว (Quinoa) เป็นธัญพืชเทียมมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ของชาวอินคาแถบอเมริกาใต้ จริง ๆ แล้วควินัวจัดอยู่ตระกูลเดียวกับผักใบเขียวอย่างผักโขม, สวิสชาร์ด และบีทรูท แต่ด้วยหน้าตาคล้ายถั่วจึงถูกจัดอยู่เป็นธัญพืชเทียม (Pseudocereal) โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามสี รสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณประโยชน์ หรือที่เรียกว่า ‘ควินัว 3 สี’ ได้แก่

  • ควินัวสีขาว (White Quinoa) มีความกรุบกรอบน้อยที่สุด มีรสอ่อน กลิ่นหอม ทานง่าย นิยมนำไปข้าวตุ๋นให้เด็กวัย 6 เดือนขึ้นไปเพราะนิ่มเคี้ยวง่าย และใช้เวลาทำให้สุกไม่นาน
  • ควินัวสีแดง (Red Quinoa) อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินอีและโฟเลต มีความกรุบกรอบเล็กน้อย รสชาติเข้มข้น
  • ควินัวสีดำ (Black Quinoa) มีสารแอนโทไซยานินต้านการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน ใช้เวลาทำให้สุกนานที่สุดเมื่อเทียบกับควินัวสีขาวและแดง

ควินัว ประโยชน์ มีอะไรบ้าง?


       ควินัวถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน Superfoods หรือ ‘สุดยอดอาหาร’ ซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ในอาหาร โปรตีน และกรดไขมันดีต่อร่างกาย โดยควินัวเองก็อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ได้แก่

  1. ใยอาหารสูง

    ควินัวมีไฟเบอร์สูงมากกว่าข้าวกล้องเกือบ 2 เท่า จึงช่วยระบบย่อยอาหาร กระตุ้นการทำงานของลำไส้จึงช่วยให้ขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น ลดปัญหาท้องผูก ทั้งยังเป็นอาหารของแบคทีเรียดีในลำไส้ ช่วยให้แบคทีเรียดีเจริญเติบโต ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

  2. โปรตีนสูง

    ควินัวคือแหล่งโปรตีนชั้นดี มักถูกเรียกว่าเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์เพราะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ 9 ชนิด แต่ทั้งนี้ควินัวมีกรดที่ชื่อลิวซีนและไลซีนปริมาณน้อย จึงแนะนำให้ทานโปรตีนจากแหล่งอื่น ๆ เสริมด้วย

  3. โอเมก้า 3-6-9 สูง

    ควินัว ประโยชน์ อย่างต่อมาคือ มีโอเมก้า 3-6-9 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาสมอง เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและความดันโลหิต

  4. มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด

    ควินัวมีแมกนีเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน, โพแทสเซียม ควบคุมความดันโลหิตและดูแลการยืเหดของกล้ามเนื้อ, เหล็ก ช่วยพัฒนาร่างกายและสมอง และโฟเลต ที่สำคัญกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์

  5. คุมระดับน้ำตาลในเลือด

    จากงานวิจัยพบว่าควินัวสามารถคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ และความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน ประเภทที่ 2 โดยแนะนำให้ทานควินัว 16 กรัม/วัน ทั้งนี้อาจต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ

  6. ต้านการอักเสบ

    ควินัว ประโยชน์อย่างสุดท้ายคือ มีสารซาโปนิน (Saponin) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยต้านอาการอักเสบในร่างกาย ส่งผลช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ ได้

ควินัว โทษ มีอะไรบ้าง?


       ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยไหนชี้ว่าควินัว โทษ มีอะไรบ้าง ร้ายแรงแค่ไหน หมอจึงแนะนำว่าให้ทานในปริมาณที่พอเหมาะ จริง ๆ แล้วยังไม่มีรายงานกำหนดปริมาณที่ควรทานต่อวันออกมา แต่หมอแนะนำว่า ทานควินัววันละ 40 – 50 กรัม/วัน เป็นสัดส่วนที่กำลังดีค่ะ หากทานมากไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น

  • แร่ธาตุในควินัวอาจรวมตัวกันจนทำให้เกิดนิ่วในไต
  • หากแพ้โปรตีนในควินัว อาจทำให้ลำไส้บวมและเป็นตะคริว
  • ควินัวมีสารไฟเตต (Phytates) คอยจับธาตุเหล็กและสังกะสี ผู้ที่ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับเหล็กและสังกะสีควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานควินัว

ควินัวช่วยลดน้ำหนักจริงไหม?


        ควินัว ประโยชน์ที่หลายคนเชื่ออีกอย่างคือลดน้ำหนัก แม้ว่าจะยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันชัดเจนในเรื่องนี้ แต่องค์ประกอบสำคัญของควินัว คือโปรตีนและไฟเบอร์ ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว โปรตีนในควินัวมีปริมาณมากเมื่อเทียบกับพืชอื่น ๆ อีกทั้งยังดูดซึมได้ง่าย ส่วนไฟเบอร์ในควินัวก็ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญและลดความอยากอาหาร เนื่องจากไฟเบอร์เบียดพื้นที่ในระบบทางเดินอาหารนั่นเอง

        ควินัวจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และถือเป็นอาหารลดพุงหรือส่วนอื่น ๆ อย่างหน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา อย่างไรก็ตาม บางครั้งการลดเฉพาะส่วนอาจทำได้ยากและต้องใช้เวลาสักระยะถึงจะได้หุ่นที่เพียวสวย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการลดน้ำหนักค่ะ แต่หากใครต้องการสร้างหุ่นในฝันในเวลาอันรวดเร็ว ทาง AMARA ก็มีบริการทางการแพทย์อย่าง ‘การดูดไขมัน’ ที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

        การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นหนึ่งในวิธีช่วยลดสัดส่วนส่วนเกินได้อย่างดี เพราะเป็นการดูดไขมันเฉพาะจุดออกได้ (และสามารถนำไปผ่านประบวนการแล้วนำกลับมาเติมส่วนอื่น เช่น หน้าอก ใบหน้า เพื่อให้ดูอวบอิ่ม อ่อนเยาว์ขึ้น) แม้ว่าการดูดไขมันจะไม่ได้ทำให้น้ำหนักลด แต่ปริมาณไขมันที่หายไปจะช่วยให้รูปร่างดูเฟิร์มขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งหากต้องการลดแค่บางส่วน เช่น มีปัญหาขาใหญ่ พุงป่อง มีเหนียงออก ฯลฯ การทานควินัวจะไม่สามารถเลือกได้ค่ะว่าจะลดตรงไหน ต่างจากการดูดไขมันก็เลือกได้ทั่วร่างกาย โดยที่ AMARA เรามีแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรม ด้านผิวหนัง และวิสัญญีแพทย์ดูแลเคสต่อเคสอย่างใกล้ชิด พร้อมเทคโนโลยีและห้องผ่าตัดที่ทันสมัย ทั้งยังมีรีวิวดูดไขมันมากที่สุด จึงถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการมีหุ่นสวยค่ะ

ต้องการปรึกษาแพทย์ฟรี!

SCan OR Code เพื่อแอดไลน์ หรือ

062 - 789 -1999

สาขา รัชโยธิน กด 1
สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ควินัว คือ


        ควินัวคืออาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เป็นโอกาสดีเลยค่ะที่ทุกคนได้ทำความรู้จักกับอาหารนี้ หลังอ่านจบหลายคนคงอยากหามาทานกันแล้วเมื่อเห็นคุณประโยชน์ของควินัว แต่ก่อนเริ่มควรมาทำความเข้าใจให้มากขึ้นก่อนค่ะ วันนี้หมอเลยรวบรวมคำถามน่ารู้ที่เกี่ยวข้องควินัวไว้ให้แล้วค่ะ

ควินัว กินดิบได้ไหม? ไม่ควรกินดิบค่ะ เนื่องจากมีสารที่เรียกว่า ซาโปนิน (Saponin) ซึ่งเป็นสารเคลือบธรรมชาติที่ทำให้ควินัวมีรสขม และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหารได้ หากต้องการรับประทานควินัว ควรล้างและปรุงสุกก่อน ซึ่งจะช่วยขจัดสารซาโปนินและทำให้ควินัวอร่อยและย่อยง่ายมากขึ้น

ทานได้ทุกวันในปริมาณที่พอเหมาะ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าเท่าไหร่ถึงเหมาะสม แต่หมอแนะนำว่า 40 – 50 กรัม/วัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ ทั้งนี้แต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ, เพศ, น้ำหนัก, โรคประจำตัว และความต้องการทางโภชนาการ ซึ่งควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้ชัดเจนก่อนทาน

คล้ายหุงข้าวธรรมดาค่ะ สามารถหุงได้ในหม้อหุงข้าว โดยหลังล้างน้ำแล้ว ให้หุงโดยใช้สัดส่วน ควินัว 1 ส่วนกับน้ำ 2 ส่วน เมื่อหุงเสร็จตามเวลาก็ทานได้เลย ดังนั้น ควินัว หุงยังไง? ก็ได้คำตอบแบบง่าย ๆ เลยใช่ไหมคะ

ควินัวไม่มีกลูเตนค่ะ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน หรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลูเตน เช่น ผู้ป่วยโรคเซลิแอค (Celiac disease) หรือผู้มีภาวะไวต่อกลูเตน (Gluten Sensitivity) ซึ่งไม่สามารถย่อยกลูเตนได้

ควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสารตกค้างออกให้หมด รวมทั้งลดสารซาโปนินที่มีรสขมออก ล้างควินัวโดยใส่ตะกร้าให้น้ำไหลผ่าน หรืออาจถูเบา ๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกด้วย เมื่อล้างจนสะอาดแล้วถึงจะนำไปปรุงสุกต่อได้

สรุป


        ควินัว คือธัญพืชที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แบ่งเป็นสามประเภทเรียกว่า ‘ควินัว 3 สี’ มีคุณค่าและรสสัมผัสต่างกัน ควินัวมีสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่ มีใยอาหารสูง, โปรตีนสูง, โอเมก้า 3-6-9, มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด, คุมน้ำตาลในเลือด และต้านอักเสบได้ แต่ก็มีข้อระวังเล็กน้อย เช่น อาจทำให้เกิดนิ่วในไต, ผู้ที่แพ้โปรตีนอาจลำไส้บวมและเป็นตะคริว และผู้ป่วยเกี่ยวกับธาตุเหล็กและสังกะสีควรหลีกเลี่ยง

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประโยชน์ของ “ไซเลียมฮัสค์” ตัวช่วยขับถ่ายจากพืช

อ่านเพิ่มเติม

น้ำผึ้ง อ้วนไหม ? ทานคู่เมนูไหนทั้งอร่อยและสุขภาพดี

อ่านเพิ่มเติม

มัดรวม 12 เมนูลดน้ำหนัก ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่อ้วน

อ่านเพิ่มเติม