ลดน้ำหนักแบบ Water fasting คืออะไร!? เสี่ยงเกินไปไหม

water fasting คือ

          วิธีลดน้ำหนักที่หมอจะมาพูดถึงในวันนี้คือ การทำ Water fasting ซึ่งเป็นการลดน้ำหนักที่เรียกได้ว่ามีความยากในการทำตามมาก ๆ ค่ะ จนหลายคนมีความสงสัยในการลดน้ำหนักวิธีนี้มาก ๆ ดังนั้นวันนี้หมอมะปราง AMARA  ได้รวบรวมทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ Water fasting และตารางการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ไว้ให้ในบทความนี้แล้วค่ะ

Water fasting คืออะไร? รู้จักให้ลึกก่อนทำตาม

         การทำ Water fasting คือวิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารและกินเพียงแค่น้ำเปล่าเท่านั้น ทำให้น้ำหนักตัวลดอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงในด้านอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น เวียนหัว อ่อนเพลีย และอาจเกิดปัญหาความดันต่ำได้ 

          Water fasting เป็นหนึ่งในวิธีลดน้ำหนักเร่งด่วนที่มีการพูดถึงมานานแล้ว แต่ด้วยความยากในการลดน้ำหนักวิธีนี้ ทำให้การการกินน้ำลดน้ำหนัก ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับการทำ IF สำหรับในทางการแพทย์ การลดน้ำหนักแบบ Water fasting ถือว่าเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงมาก และควรศึกษาขั้นตอนการปฎิบัติให้ดีก่อนตัดสินใจทำ ซึ่งการกินน้ำลดน้ำหนักจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกันคือ การทำ Water fast และ การทำ Post fest

water fasting คือ

ประเภทการลดน้ำหนัก Water fasting

          การทำ Water fasting จะมี 2 ระยะด้วยกันค่ะ คือการอดอาหาร 24-72 ชม. และ การคุมอาหารหลังการอดอาหาร(ในช่วงระยะเวลาที่อดอาหารจะดื่มแค่น้ำเปล่าอย่างเดียวเท่านั้น)

Water fast (24-72 ชั่วโมง)

          Water fast คือระยะที่เราทำการอดอาหารทุกชนิดในช่วง 24-72 ชั่วโมง ในช่วงที่ทำแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ โดยส่วนใหญ่ปริมาณน้ำที่ดื่มจะอยู่ที่ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อทนแทนปริมาณน้ำจากอาหารที่ขาดไป เพราะว่ากว่า 20-30% ของน้ำในร่างกายมาจากอาหารที่กิน ดังนั้นหากทุกคนต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ จึงต้องดื่มน้ำให้มากกว่าปกติค่ะ

water fasting คือ

          ในช่วงที่ Water fast อาจมีอาการวินเวียนศรีษะ หรือ มีอาการตาพร่ามัว หากใครที่ต้องขับรถเป็นประจำ หมอไม่แนะนำให้ลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้นะคะ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงต้องระวังเรื่องนี้ให้มาก ๆ

Post fast (1-3 วัน)

          สำหรับช่วงนี้เป็นระยะที่ 2 สำหรับการทำ Fasting ในช่วงวันที่ 1-3 หลังอดอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักหรืออาหารที่ย่อยยาก เนื่องจากกระเพาะของเราไม่ได้รับอาหารมานานหลายชั่วโมง จึงมีโอกาสเกิดปัญหาแน่นท้อง จุกเสียด กรดไหลย้อน และอาหารไม่ย่อยได้ ดังนั้นในช่วง Post fast หมอแนะนำให้ทานอาหารอ่อน ๆ เป็นหลัก เช่น กรีกโยเกิร์ต ผลไม้ เมนูไข่ และปลา เป็นต้น

water fasting คือ

เกร็ดน่ารู้! : มือใหม่หัด Fasting

          สำหรับใครที่ไม่เคยลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารมาก่อน จะต้องมีการเตรียมท้องให้พร้อมในช่วงก่อนทำ Fasting 1-3 วัน โดยเริ่มจากการลดปริมาณอาหารที่ทานต่อมื้อลง เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดีสำหรับการอดอาหารค่ะ

การทำ Water fasting ดีอย่างไร! ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

          ตอนนี้ทุกคนก็รู้กันแล้วนะคะว่า Water fasting คืออะไร และมีขั้นตอนในการทำอย่างไร ในส่วนถัดไปเราจะไปดูกันในเรื่องของ ข้อดีและข้อเสียของการทำ Water fast กันบ้างค่ะ แน่นอนว่าทุกอย่างในโลกล้วนมีสองด้านเสมอ เราจึงต้องพิจารณาทั้งสองสิ่งนี้ให้ดีว่าเหมาะกับเราหรือไม่ เพื่อเตรียมพร้อมรับทั้งเรื่องดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นค่ะ ซึ่งการทำ Water fast จะช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

1. Water fasting คือตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

          ระหว่างอดอาหารลดน้ำหนัก ร่างกายจะเกิดการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไป ทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 1-2 กิโลภายใน 3 วัน ถือเป็นการลดน้ำหนักที่เห็นผลอย่างรวดเร็ว (ทั้งนี้การอดอาหารนาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบางลง และเป็นอันตรายต่อกระเพาะและระบบขับถ่ายได้)

2.ก่อให้เกิดกระบวนการ Autophagy

          การอดอาหารนอกจากจะให้ผลดีในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยก่อให้เกิดกลไกการกินตัวเองของเซลล์ หรือ Autophapy ที่เป็นกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ในร่างกายขึ้นมาใหม่ตามธรรมชาติ ทำให้อายุยืนขึ้นและยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคสมองเสื่อม (อ่านเพิ่มเติม..กลไกการกินตัวเองของเซลล์ ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น?)

3.ลดความดันโลหิต

          ในกลุ่มของผู้ที่ลดน้ำหนักแบบ Water fasting คือจะต้องมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด มีข้อมูลหลายแห่งชี้ว่า การอดอาหารรูปแบบนี้ สามารถช่วยลดความดันของโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้มากถึง 82% ของผู้เข้าร่วมการทดลอง (อัตราความดันปกติจะอยู่ที่ไม่เกิน 120/80 ม.ม. ปรอท) 

4.ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินและฮอร์โมนเลปตินดีขึ้น

          ในการทำ Fasting ร่างกายจะถูกกระตุ้นให้ตอบสนองต่อฮอร์โมนสองชนิดนี้ได้ดีขึ้นอย่างมากเลยค่ะ ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินและฮอร์โมนเลปติน เปรียบเสมือนผู้คุมศูนย์หิว-ศูนย์อิ่มของร่างกาย เมื่อร่างกายเราตอบสนองต่อกระบวนการนี้ได้ดี จะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มมากขึ้น กินจุกจิกน้อยลง และยังช่วยลดความอยากอาหารที่มากเกินไปได้ด้วยค่ะ 

5.ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงเรื้อรัง

          แม้จะดูเหมือนไม่น่าเชื่อ แต่ว่าการอดอาหารแบบ Water fasting จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะก่อนเบาหวาน

อันตรายที่ควรระวัง หากเลือกลดน้ำหนักแบบ Water fasting

          สำหรับข้อเสียของการทำ Water fasting ต้องพูดตามตรงว่าเป็นวิธีที่มีผลเสียเยอะและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกับคนที่ร่างกายไม่พร้อมพอที่จะอดอาหาร หรือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว นอกจากนี้ในระหว่างที่ทำการอดอาหาร ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ่อนตามมาอย่างมากกมายเลยค่ะ เพราะร่างกายของเราจำเป็นต้องมีอาหารมาเสริมสร้างการทำงานส่วนต่าง ๆ ดังนั้นเมื่อขาดตรงนี้ไปแล้ว จึงเกิดปัญหาเหล่านี้ตามมาได้ค่ะ

  • เกิดอาการเวียนหัว มึนศรีษะ บ้านหมุน
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันลดน้อยลง
  • ในเคสผู้หญิงประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ และมีปัญหาผมร่วงยิ่งขึ้น
  • นอนไม่หลับ หรือ หลับไม่สนิท
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่ายขึ้น
  • ร่างกายอาจเกิดอาการขาดน้ำ
  • เกิดภาวะความดันเลือดต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถ
  • ส่งผลเสียต่อการทานยาประจำตัว

อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8951503/

water fasting คือ
water fasting คือ

Water fasting กินกาแฟได้ไหม

          ในช่วงการทำ Fasting การดื่มกาแฟสามารถทำได้ แต่แนะนำให้เลือกดื่มเป็นการแฟดำ หรื อเมริกาโน่ ไม่เติมน้ำตาล หรือใครที่อยากจะเปลี่ยนมาดื่มชาเขียวก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ เพราะทั้งในกาแฟและชาเขียวมีคุณสมบัติในการช่วยขับถ่าย เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายที่อ่อนล้าในช่วงของการอดอาหาร และที่สำคัญคือมีแคลที่ต่ำไม่ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

Water fast ทําได้บ่อยแค่ไหน

          การทำ water fast ไม่แนะนำให้ทำบ่อยเกินไปหรือทำติดต่อกันหลายวัน เพราะร่างกายของเรานั้นจะถูกขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุดก็คือตอนได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังนั้นในเกณฑ์การทำ water fasting ไม่ควรทำเกิน 7 วัน และจะต้องอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ ไม่ควรทำเองเด็ดขาดค่ะ 

  • ลดน้ำหนัก Water fasting 3 days ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

          สำหรับผู้ที่สนใจการลดน้ำหนักด้วยการกินน้ำอย่างเดียว 3 วัน สามารถทำได้ในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และมีผู้เชี่ยวชาญดูแล แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังในเรื่องของภาวะขาดน้ำ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับน้ำจากอาหารที่ทานในวันปกติไปนานถึง 3 วัน รวมทั้งความเสี่ยงในเรื่องของค่าโซเดียมที่ต่ำลงจนก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรงได้  

  • ลดน้ำหนัก Water fasting 7 days ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

          สำหรับคนที่ต้องการลดแบบ 7 วันด้วยการกินน้ำอย่างเดียว ความเสี่ยงที่ต้องเจอคือในช่วง 1-3 วันแรกของการอดอาหาร เพราะร่างกายยังปรับตัวไม่ได้จึงมีอาการข้างเคียงหลายอย่าง แต่จากการทดลองของผู้ที่ทำ Water Fast ครบ 7 วันมักมีผลลัพธ์ที่ดีอย่างชัดเจนกว่าคนที่ลดแบบ 3 วัน อาทิ

  • ความเครียดลดลง
  • น้ำหนักลดลง
  • ระบบขับถ่ายดีขึ้น 
  • ความเป็นกรดในร่างกายลดลง
  • ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
  • โซเดียมและความดันโลหิตลดลง

แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปตามร่างกายของแต่ละบุคคล ควรตรวจสุขภาพและให้แพทย์ประเมินความพร้อมก่อนอดอาหารจะดีที่สุดค่ะ 

  • ลดน้ำหนัก Water fasting 14-21 days ทำได้ไหม

          การอดอาหาร 14-21 วันถือเป็นอะไรที่อันตรายมาก ๆ ค่ะ และหมอไม่แนะนำให้ทำจะดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าหากอยากให้น้ำหนักลดเร็วแบบไม่โยโย่จริง ๆ อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพิ่มเพื่อทำการรักษาในส่วนของคนที่ BMI สูงมาก ๆ หรือผู้ที่มีปัญหาโรคอ้วน โดยหมอได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมไว้ที่ด่านล่างแล้วค่ะ

เกร็ดความรู้ : Water fasting คือการลดน้ำหนักที่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน!

          จากที่หมอได้กล่าวไปข้างต้น หลายคนน่าจะพอรับรู้ได้ถึงความเสี่ยงของการทำ Water fasting กันพอสมควรแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ เราไปเช็กดูกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่ามีใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการกินน้ำลดน้ำหนัก

  • กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • กลุ่มผู้ป่วยโรคเก๊าท์
  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรถ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องจักรหรือทำงานกลางแจ้ง
  • ผู้ที่ใช้รถเป็นประจำ, คนขับรถสาธารณะ

ลดน้ำหนักวิธีไหนดี? ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกาย

          หากใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าวิธีการทำ Water fasting ไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง หมอมะปรางมีอีก 2 วิธีในการลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนมาฝากทุกคนค่ะ นั่นก็คือ การใช้ปากกาคุมหิว และ การดูดไขมัน ขอกระซิบบอกก่อนว่า ทั้งสองวิธีนี้เป็นทางลัดสู่หุ่นสวย ที่ไม่ต้องอดอาหารและออกกำลังกายหนัก ๆ เลยค่ะ

ปากกาคุมหิว (Amara Pen)

          Amara Pen ตัวช่วยคนกินเก่งที่พกไปไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอกินเยอะจนน้ำหนักขึ้น เพราะในตัวปากกาประกอบไปด้วยตัวยา GLP-1 Analogue มีหน้าที่ในการช่วยสั่งการให้สมองหิวน้อยลง และรู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น จึงช่วยทำให้พฤติกรรมการกินดีขึ้นตามไปด้วย กินจุกจิกน้อยลงและสามารถทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมกว่าเดิม เมื่อใช้ปากกาคุมหิวไปสักพัก กระเพาะของคนไข้จะหดตัวตามธรรมชาติ ทำให้คุมอาหารได้ง่ายขึ้นโดยไม่ทรมาน

ไขมันทรานส์

          การใช้ Amara Pen จะมีแพทย์คอยดูแลการใช้ยาอยู่ตลอด เมื่อพฤติกรรมการกินดีขึ้น น้ำหนักตัวเป็นที่น่าพอใจ หมอก็จะสั่งให้หยุดใช้ตัวยาค่ะ ในเรื่องของความปลอดภัย Amara Pen ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรืออย. สหรัฐอเมริกา (U.S. FDA), ประเทศไทย (Thai FDA) และเกาหลีใต้ (KFDA) ดังนั้นจึงมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้เลยค่ะ

ดูดไขมัน (Liposuction) ลดส่วนเกิน

          สำหรับวิธีต่อมาคือ การดูดไขมัน วิธีนี้ไม่ใช่การลดน้ำหนักนะคะแต่เป็นการลดสัดส่วนที่ฮิตมาก ๆ ซึ่งที่ Amara Clinic ของเราเป็นศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมัน และยกกระชับสัดส่วนเฉพาะทางเลยค่ะ ในการดูดไขมันถือเป็นการผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง แพทย์จะทำการสลายไขมันเพื่อให้ง่ายต่อการดูดออกมาด้วยเครื่องดูดไขมันพลังงานต่าง ๆ หลังจากดูดไขมันออกมาแล้ว สัดส่วนจะเล็กลงทันที รูปร่างมีความเฟิร์มเหมือนออกกำลังกายมานาน นอกจากนี้ยังช่วยสร้างมิติให้กับรูปร่างได้อีกด้วยค่ะ เช่น การทำเซ็กซี่ไลน์ การทำซิกแพค การเหลาเอวเอส เป็นต้น สำหรับการดูดไขมันสามารถทำได้หลายตำแหน่งด้วยกัน 

  • ดูดไขมันหน้าท้อง
  • ดูดไขมันเอวเอส-ปีกหลัง
  • ดูดไขมันต้นแขน
  • ดูดไขมันต้นขา
  • ดูดไขมันน่อง
  • ดูดไขมันหัวเข่า-ข้อเท้า 
  • ดูดไขมันเหนียง
หมอไอซ์ แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน เติมไขมัน AMARA

รีวิว ดูดไขมัน ที่ Amara Clinic

หุ่นสวยทันใจจะไซซ์ไหน เอมาร่า ก็ปั้นได้!

ลดน้ำหนัก Water fasting

ดูรีวิวจากเคสจริงได้ที่นี่...แชร์ประสบการณ์ดูดไขมัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

สุดยอดอาหารแคลน้อยครบ 3 มื้อ กินอะไรดีมาดูกัน!

อ่านเพิ่มเติม

คอมบูชา คือ ชาหมักที่ช่วยลดน้ำหนัก จริงไหม?

อ่านเพิ่มเติม

แชร์! วิธีกินกระเทียมสด ลดไขมัน กินให้ถูกวิธีช่วยได้จริง! พร้อมทริคลดหุ่นเร่งด่วน!

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          จนถึงตอนนี้หมอเชื่อว่า หลายคนที่เคยสงสัยว่การทำ water fasting คืออะไร ต่างก็ได้รับคำตอบในเรื่องนี้มากพอสมควรกันแล้วนะคะ สุดท้ายนี้แม้ว่าการทำ Water fasting จะช่วยลดน้ำหนักของเราได้อย่างรวดเร็ว แต่หมอก็อยากจะย้ำอีกครั้งว่า ทุนเดิมของร่างกายเราต้องดี มีการปรับปริมาณอาหารลดก่อนเริ่มทำ และที่สำคัญไม่ควรหักดิบชนิดที่ไม่เตรียมพร้อมแล้วทำเลย เพราะผลเสียอาจมากกว่าผลดีที่ได้รับ หากท่านใดที่ต้องการปรึกษาปัญหารูปร่าง ไขมันส่วนเกิน สามารถเข้ามาพูดคุยกับหมอที่ Amara Clinic ได้เลยค่ะ หรือจะทักสอบถามที่ LINE : @amaraclinic ก็ได้เช่นกันค่ะ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย