อ้วนหลังคลอด ลดยังไงให้หุ่นกลับมาแซ่บกว่าเดิม!

อ้วนหลังคลอด

โดยปกติแล้ว เมื่อคุณแม่คลอดบุตรได้ประมาณ 4-6 สัปดาห์ คุณหมอจะนัดคุณแม่เพื่อตรวจร่างกายหลังคลอดโดยจะตรวจดูเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดว่ากลับสู่ภาวะปกติหรือยัง อาทิ ฮอร์โมน, ขนาดของมดลูก, เต้านม และภาวะจิตใจหลังคลอด รวมไปถึงเรื่องน้ำหนักตัวหลังคลอด

ซึ่งโดยปกติแล้ว หลังคุณแม่คลอดลูกได้ 6 สัปดาห์ น้ำหนักจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ประมาณ 8-12 กิโลกรัม จนใกล้เคียงกับน้ำหนักปกติก่อนตั้งครรภ์ คุณแม่บางท่านมีสัดส่วนเข้าที่ไว น้ำหนักลดจนเป็นปกติ แต่ก็ยังมีคุณแม่หลังคลอดจำนวนไม่น้อยที่ยังมีปัญหาเรื่องอ้วนหลังคลอด ลดน้ำหนักยาก ซึ่งวันนี้หมอมีวิธีลดน้ำหนักหลังคลอด และลดหุ่นหลังคลอดมาฝากกัน รวมไปถึงตอบคำถามยอดฮิต อ้วนหลังคลอดลดยังไง, หลังคลอดกินอะไรได้บ้างที่ไม่ทำให้อ้วน รวมไปถึงหลังคลอดคุณแม่ทำสวยอะไรได้บ้าง ติดตามได้ในบทความนี้ค่ะ

สาเหตุที่ทำให้อ้วนหลังคลอด


อย่างที่หมอเกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า หลังคลอดลูก ร่างกายคุณแม่จะเริ่มปรับตัวและน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ บางคนสามารถกลับไปมีรูปร่างที่สมส่วนได้ปกติ อาจะมีปัญหาเรื่องผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้ เช่น หน้าท้องและหน้าอกที่หย่อนคล้อย แต่ก็ยังมีคุณแม่หลายคนที่ประสบกับปัญหาอ้วนหลังคลอด ทั้งที่ควบคุมอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายทุกวัน แต่ทำไมยังมีภาวะอ้วนหลังคลอด ลดไม่ลงกันอยู่ เดี๋ยวเราลองมาเช็คสาเหตุที่ทำให้คุณแม่อ้วนหลังคลอดกันดูก่อนค่ะ

อ้วนหลังคลอดจากน้ำหนักตัวคงค้าง

โดยปกติแล้ว หลังคลอดบุตร น้ำหนักตัวของคุณแม่จะลดลงทันทีประมาณ 6 กิโลกรัม และยังจะลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากร่างกายขับน้ำส่วนเกินที่สะสมอยู่ออกไป แต่หลังคลอดร่างกายจะยังเก็บสะสมสารอาหารเพื่อเอาไว้เพื่อผลิตน้ำนมให้กับลูกในช่วง 6 เดือนแรก จึงทำให้คุณแม่ยังมีน้ำหนักเกินหรือมากกว่าปกติบ้าง แต่ทั้งนี้จะค่อย ๆ ลดเอง จึงไม่ต้องกัลวล

อ้วนหลังคลอดจากพฤติกรรม

การใช้ชีวิตประจำวันและการรับประทานอาหารของคุณแม่หลังคลอดอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างไม่รู้ตัวค่ะ อาทิ ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ระบบเผาผลาญพัง รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างไม่ระมัดระวัง เช่น ทานข้าวไม่เป็นเวลา ทานจุบจิบ ทานอาหารที่มีแคลอรี่มากเกินที่ร่างกายต้องการ และไม่ออกกำลังกาย

อ้วนหลังคลอดจากการให้ลูกหยุดกินนมแม่เร็ว

“แค่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ น้ำหนักก็ลดได้” คุณแม่หลายท่านอาจสงสัยว่ามันเป็นไปได้อย่างไร โดยปกติแล้วการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเป็นการเผาผลาญพลังงานได้ 500-800 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เนื่องจากการผลิตน้ำนมในแต่ละครั้งเป็นการดึงเอาไขมันมาใช้ และหากให้นมลูกอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป จะสามารถลดไขมันส่วนเกินที่สะสมตามสะโพก หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาได้มาก รวมทั้งยังทำให้น้ำหนักตัวกลับมาปกติอีกด้วยค่ะ ซึ่งหากคุณแม่หยุดให้นมลูกเร็วก็จะทำให้มีไขมันสะสมและน้ำหนักส่วนเกินมากกว่าคุณแม่ที่ให้นมลูก 6 เดือนขึ้นไปนั่นเองค่ะ

โรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์

ในระหว่างการตั้งครรภ์อาจมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ อาทิ ท้องนอกมดลูก, ภาวะแท้ง, โรคความดันโลหิตสูง รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวพันกับความอ้วนนั่นก็คือ โรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่นอกจากจะส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์แล้ว ยังทำให้เกิดผลพวงของความอ้วนหลังคลอดอีกด้วย เพราะคุณแม่ที่เป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์จะมีความอยากอาหารหวาน ๆ และไขมันมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

คุณแม่อายุมาก

เมื่อเราอายุมากขึ้นตั้งแต่ 20-30 ปี มวลกล้ามเนื้อจะลดลงตามไปด้วย ซึ่งเซลล์กล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ระบบเผาผลาญในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุมากทำงานได้น้อยลง ทำให้คุณแม่หลังคลอดที่อายุมากลดน้ำหนักยากกว่าในคนอายุน้อยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ลดความอ้วนหลังคลอด ต้องลดอย่างไรไม่ให้เกิดอัตราย หาคำตอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ลดน้ำหนักหลังคลอด

เกร็ดความรู้ ช่องคลอดหลวม อีกหนึ่งปัญหาคุณแม่หลังคลอด

นอกจากเรื่องอ้วนหลังคลอดแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลังคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ มักพบกับปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ อันเนื่องมาจากการยืดขยายของช่องคลอด รวมถึงการตัดฝีเย็บเพิ่มในระหว่างการคลอดบุตร โดยกลไลและขั้นตอนเหล่่านี้มีผลทำให้ช่องคลอดหลวม ไม่กระชับได้ค่ะ

สำหรับปัจจัยที่จะทำให้ช่องคลอดหลวมมากน้อยเพียงใด ก็อาจขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเด็กทารก รวมไปถึงจำนวนการคลอดบุตร ถ้าคุณแม่มีบุตรมากกว่า 1 คน และคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ช่องคลอดจะหลวมมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองค่ะ

ติดตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาช่องคลอดหลวม และวิธีแก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ >> กระชับช่องคลอด

5 อาหารลดน้ำหนักหลังคลอด


คุณแม่หลายท่านเป็นกังวลว่า หลังคลอดกินอะไรได้บ้างจึงไม่ทำให้อ้วน หมอแนะนำว่าคุณแม่หลังคลอดควรทานอาหารให้พอดี พออิ่ม เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน ขนม น้ำหวาน น้ำอัดลม โดยเน้นทานผักผลไม้ที่มีกากใยจะดีกว่าค่ะ ซึ่งจะควบคุมปริมาณแคลอรี่ได้ดีมาก เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือ ทานผลไม้ให้ได้ 5 ส่วน ใน 1 วัน โดยให้ทานก่อนอาหารจะทำให้อิ่มไว และยังได้วิตามินซีซึ่งร่างกายจะดูดซับได้ดีตอนท้องว่างอีกด้วยค่ะ รวมไปถึงรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพื่อช่วยลดความโหยอันเป็นสาเหตุทำให้เราทานอาหารแบบโหมกระหน่ำมากยิ่งขึ้น

อ้วนหลังคลอด

ไข่

คุณแม่หลังคลอดควรรับประทานอาหารประเภทโปตีนมาก ๆ โดยเฉพาะไข่ไก่ เนื่องจากไข่ไก่ให้พลังงานน้อยกว่าไข่เป็ด ยิ่งเป็นไข่ต้มจะดีมากกว่าการทอด โดยทานวันละ 3 ฟอง (มื้อละ 1 ฟอง) หรือถ้าคุณแม่มีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลสูงก็สามารถเลือกทานแต่ไข่ขาวได้เลยค่ะ

อ้วนหลังคลอด

โปรตีน 

อาจจะเน้นโปรตีนที่มาจากพืชที่ย่อยง่ายมากกว่าเนื้อสัตว์ เช่น ถั่วชนิดต่าง ซึ่งคุณแม่สามารถได้สารอาหารโปรตีนที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ พยายามรับประทานให้ได้มื้อนึงประมาณ 1 ฝ่ามือ

ไขมันดี

คุณแม่หลังคลอดสามารถเลือกทานไขมันได้ แต่ต้องเป็นไขมันดีเท่านั้นนะคะ ซึ่งจะพบได้ในพืชและเนื้อสัตว์ อาทิ อะโวคาโด, ถั่วเปลือกแข็ง, ธัญพืช, น้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัว (น้ำมันมะกอก, น้ำมันทานตะวัน, น้ำมันรำข้าว) รวมไปถึงปลาที่มีกรดไขมันสูง (แซลมอน, ทูน่า, ซาดีน)

ผักใบเขียว

คุณแม่หลังคลอดควรรับประทานผักใบเขียวให้ได้ประมาณ 2-3 ทัพพีต่อมื้อ เลือกทานได้ทั้งผักสดและผักต้ม ซึ่งจะช่วยทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนานขึ้น รวมไปถึงกากใยในผักช่วยให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น

ข้าวไม่ขัดสี

เลือกทานข้าวไม่ขัดสีแทนข้าวขาว และในมื้อเย็น คุณแม่ควรลดหรืองดทานข้าวในมื้อเย็น ให้เลือกทานโปรตีนแทน เช่น ปลาแซลมอนย่าง, สลัดอกไก่ต้ม ฯลฯ ส่วนมื้ออื่น ๆ ให้ทานข้าวในปริมาณที่เหมาะสม

เกร็ดความรู้ : สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนั่นก็คือ “ทานเข้าไปมากกว่าที่ร่างกายใช้” เมื่อแคลอรี่สูงเกินไป ร่างกายก็จะเก็บกักพลังงานส่วนเกินในรูปแบบของไขมันนั่นเองค่ะ ดังนั้น การฝึกนับแคลอรี่เพื่อลดน้ำหนักแบบยั่งยืน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะอ้วนหลังคลอด (อ่านเพิ่มเติม : ลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่)

พฤติกรรมลดอ้วนหลังคลอด


  • ให้นมลูกเอง มีผลดี 2 ต่อ ต่อแรกคือ เผาผลาญพลังงานได้ดี ต่อที่สองคือ ลูกได้ดื่มนมแม่ที่มีสารอาหารครบถ้วน
  • อยู่ไฟหลังคลอด เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายได้เร็ว ทำให้ร่างกายคุณแม่ฟื้นตัวได้ไวยิ่งขึ้น
  • ดื่มน้ำลดอ้วน การดื่มน้ำเยอะ ๆ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี รวมไปถึงลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย
  • ขยับบ่อย ๆ แนะนำให้คุณแม่ขยับร่างกายให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน
  • นับแคลอรี่ คุณแม่หลังคลอดควรทานอาหาร 1,800-2,000 กิโลแคลอรี่/วัน
  • ห้ามอดอาหาร เพราะจะยิ่งทำให้อัตราการเผาผลาญได้น้อยลง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความสมดุล เป็นผลให้ระบบต่าง ๆ รวมไปถึงระบบเผาผลาญทำงานได้ปกติ
  • ลด-งดข้าวในมื้อเย็น เลือกทานเป็นโปรตีนจากเนื้อปลาและผักผลไม้แทน

ออกกำลังกายลดอ้วนหลังคลอด


ในช่วง 1-3 เดือนหลังคลอด เป็นเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนตอนก่อนตั้งครรภ์ หากคุณแม่รู้สึกอยากออกกำลังกายในช่วงนี้ก็สามารถทำได้เลยค่ะ แต่หากเป็นคุณแม่ที่ผ่าท้องคลอดควรรอให้ครบ 2 เดือน เพื่อให้แผลผ่าตัดหายสนิทเสียก่อนค่ะ ซึ่งในคุณแม่ที่คลอดวิธีธรรมชาติสามารถเริ่มออกกำลังกายใน 1 เดือนหลังคลอด โดยเลือกการออกกำลังกายที่ไม่มีแรงกระแทก อาจเริ่มต้นด้วยการเดินวันละ 5 นาที, การปั่นจักรยานอยู่กับที่, การว่ายน้ำ, เล่นโยคะหลังคลอด หรือแม้กระทั่งการทำงานบ้าน แต่ทั้งนี้ยังต้องระวังเรื่องการออกกำลังกายดังต่อไปนี้ค่ะ

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่ใช้แรงมาก ๆ เช่น ยกน้ำหนัก
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเกร็งบริเวณหน้าท้อง เช่น ท่า Plank, Hip Lift, V Ups เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องมีการกระโดด หรือมีแรงกระแทกแรง ๆ เช่น กระโดนเชือก, การวิ่ง เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

สอบถามฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

คุณแม่อ้วนหลังคลอดทำสวยอะไรได้บ้าง


เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นกับคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสาเหตุของน้ำหนักตัวที่มากขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งมีผลทำให้สัดส่วนและผิวพรรณของคุณแม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่ที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่และอยากกลับมามีรูปร่างและสัดส่วนที่สวยเป๊ะอีกครั้ง หรืออยากลดหุ่นหลังคลอด ที่ Amara Clinic พร้อมให้คำแนะนำคุณแม่หลังคลอดทุกท่านค่ะ

ปัญหา : ลดน้ำหนักยาก อยากลดน้ำหนักหลังคลอด


สาเหตุ : อาจเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายมีความแปรปรวน จนไปกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้กินจุกจิก หิวบ่อย

การแก้ไข : ปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen

ปัญหา : เต้านมไม่กระชับ

สาเหตุ : ระหว่างตั้งครรภ์เต้านมของคุณแม่จะขยายใหญ่ เนื่องจากฮอร์โมนและมีการผลิตน้ำนม เมื่อคุณแม่หยุดให้นมลูกไปสักระยะเต้านมจะหยุดผลิตน้ำนม เต้านมจึงหดตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้

การแก้ไข : ฉีดไขมันหน้าอก

ปัญหา : พุงป่อง พุงย้วย

สาเหตุ : ส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (เนื่องจากการขยายตัวของท้อง) รวมไปถึงชั้นไขมันที่มีการดันตัวออกมา จึงทำให้หน้าท้องป่อง บางท่านอาจมีปัญหาผิวหน้าท้องย้วยร่วมด้วย

การแก้ไข : ดูดไขมัน+กระชับด้วย Plasma Jet / ตัดหนังหน้าท้อง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลดหุ่นหลังคลอด)

ปัญหา : เนื้อปลิ้นที่ข้าง รักแร้ (นมน้อย)

สาเหตุ : เกิดจากไขมันส่วนเกินที่สะสมตามสัดส่วน รวมไปถึงด้านข้างรักแร้หรือปีกหลัง

การแก้ไข : ดูดไขมันนมน้อย

ปัญหา : ผิวแตก มีเซลลูไลท์

สาเหตุ :ผิวเปลือกส้มเป็นอีกปัญหาที่มาพร้อมกับไขมันสะสมที่เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดบุตร โดยมีลักษณะเป็นผิวที่ไม่เรียบ ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ

การแก้ไข : Venus Legacy นวดลดเซลลูไลท์ ยกกระชับผิวด้วยคลื่น RF

คำแนะนำคุณแม่หลังคลอด

ปัญหา

  • ลดน้ำหนักยาก อยากลดน้ำหนักหลังคลอด

สาเหตุ

  • อาจเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายมีความแปรปรวน จนไปกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้กินจุกจิก หิวบ่อย

การแก้ไข

ปัญหา

  • เต้านมไม่กระชับ

สาเหตุ

  • ระหว่างตั้งครรภ์เต้านมของคุณแม่จะขยายใหญ่ เนื่องจากฮอร์โมนและมีการผลิตน้ำนม เมื่อคุณแม่หยุดให้นมลูกไปสักระยะเต้านมจะหยุดผลิตน้ำนม เต้านมจึงหดตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้

การแก้ไข

  • ฉีดไขมันหน้าอก

ปัญหา

  • พุงป่อง พุงย้วย

สาเหตุ

  • ส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (เนื่องจากการขยายตัวของท้อง) รวมไปถึงชั้นไขมันที่มีการดันตัวออกมา จึงทำให้หน้าท้องป่อง บางท่านอาจมีปัญหาผิวหน้าท้องย้วยร่วมด้วย

การแก้ไข

ปัญหา

  • เนื้อปลิ้นที่ข้างรักแร้ (นมน้อย)

สาเหตุ

  • เกิดจากไขมันส่วนเกินที่สะสมตามสัดส่วน รวมไปถึงด้านข้างรักแร้หรือปีกหลัง

การแก้ไข

  • ดูดไขมันนมน้อย

ปัญหา

  • ผิวแตก มีเซลลูไลท์

สาเหตุ

  • ผิวเปลือกส้มเป็นอีกปัญหาที่มาพร้อมกับไขมันสะสมที่เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดบุตร โดยมีลักษณะเป็นผิวที่ไม่เรียบ ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ

การแก้ไข

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : วิธีแก้ไข

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

โปรแกรม Mommy Makeover กู้หุ่นพัง คืนความมั่นใจให้คุณแม่หลังคลอด

อ่านเพิ่มเติม

วิธีกระชับช่องคลอดแบบเร่งด่วน คืนความฟิตให้น้องสาว!

อ่านเพิ่มเติม

ลดน้ำหนักหลังคลอด คุณแม่กลับมาหุ่นสวย สุขภาพดี!

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          หมอเชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดที่มีภาวะอ้วนหลังคลอดแทบทุกราย คงอยากกลับมามีรูปร่างและสัดส่วนที่เข้าที่เหมือนเดิม แต่หมอไม่อยากให้คุณแม่เครียดกับการลดน้ำหนักหลังคลอดมากจนเกินไป ควรลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งจะส่งผลดีกับสุขภาพในระยะยาว ส่วนคุณแม่คนไหนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วยังเห็นผลไม่ดีเท่าที่ควร ก็สามารถพูดคุยปรึกษาหมอได้เลยค่ะ 

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)

วิธีแก้ไขปัญหาคุณแม่หลังคลอด

คุมน้ำหนัก ลดหิว อิ่มไว ด้วยปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen

แก้ปัญหาเต้านมไม่กระชับ เนินหน้าอกอวบอิ่ม ด้วยเทคนิคฉีดไขมันหน้าอก

เทคนิคดูดไขมันผิวไม่ย้วย ด้วยการนำ body-jet มาผสานกับ J Plasma กลายเป็น Plasma Jet นวัตกรรมในการลดสัดส่วน

จบปัญหาหน้าท้องย่นย้วย ด้วยเทคนิคตัดหนังหน้าท้อง

วงแขนกลับมาสวยกระชับ ด้วย ดูดไขมันนมน้อย หรือ ผ่าตัดนมน้อย

ผิวเรียบเนียน กำจัดผิวเปลือกส้ม ด้วยเทคโนโลยี Venus Legacy นวดสลายเซลลูไลท์

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย