ยิ่งลดยิ่งยาก ลดได้แต่ก็ช้า เป็นปัญหาสุดฮิตของใครหลายคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดหุ่นกันใช่ไหมคะ ทั้งที่ควบคุมอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว แต่น้ำหนักยังเยอะ หุ่นยังพัง นั่นอาจเป็นเพราะภาวะระบบเผาผลาญพังอยู่ก็เป็นได้ค่ะ ตอนนี้ใครที่กำลังเจอปัญหาระบบเผาผลาญพังอยู่ ลดหุ่นเท่าไหร่ก็ยังไม่สำเร็จ หมอมะปราง Amara Clinic จะขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่าระบบเผาผลาญคืออะไร, ระบบเผาผลาญพัง เกิดจากอะไรได้บ้าง, เช็กตัวเองว่า ระบบเผาผลาญพัง อาการเป็นอย่างไร, ระบบเผาผลาญพัง แก้ยังไงให้กลับมาเป็นปกติ รวมถึงหมอยังมีตัวช่วยไม้เด็ดทั้งเรื่องการลดน้ำหนัก และลีนไขมันส่วนเกิน กู้หุ่นพังให้กลับมาสวยเฟิร์มได้อีกครั้งค่ะ
ทำความรู้จัก “ระบบเผาผลาญ”
ระบบเผาผลาญ (Metabolism) คือ ระบบที่ช่วยดึงเอาสารอาหารที่ได้รับจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เปลี่ยนเป็นพลังงาน โดยเก็บสะสมในรูปแบบของสารเคมีฟอสเฟตที่มีพลังงานสูง (ATP) เพื่อส่งต่อไปยังระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราค่ะ เนื่องจากทุกระบบหรือทุกอวัยวะภายในร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงาน เป็นตัวขับเคลื่อนให้ทำงานได้อย่างปกติ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการหายใจ, การสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก หรือระบบอื่น ๆ ในร่างกาย ซึ่งไม่ว่าเราจะทำอะไร หรือแม้กระทั่งนั่งเฉย ๆ ร่างกายเราก็จะมีการเผาผลาญอยู่ตลอดเวลา โดยจะเรียกว่า อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน (Basal Metabolic Rate: BMR) สามารถอ่านรายละเอียดและสูตรการคำนวณค่า BMR เฉพาะบุคคลได้ที่ >> นับแคลอรี่

โดยอัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐานที่ว่านี้ก็คือ ปริมาณแคลอรี่ขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการต่อวัน เพื่อทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกตินั่นเองค่ะ ซึ่งในแต่ละวันระบบเผาผลาญจะใช้พลังงานไม่เกิน 80% ของพลังงานที่ร่างกายต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย อย่างอายุและกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวันค่ะ ซึ่งหากร่างกายเกิดภาวะระบบเผาผลาญพัง นั่นแปลว่า ร่างกายเรามีอัตราการเผาผลาญขั้นต่ำที่น้อยกว่าปกติค่ะ
แน่นอนว่า หากเราปล่อยให้ระบบเผาผลาญพัง โดยที่ไม่มีการฟื้นฟูระบบเผาผลาญให้กลับมาเป็นปกติ นานวันเข้า รูปร่างของเราก็จะเปลี่ยนไป หุ่นเริ่มพัง เพราะไขมันสะสมที่มาจากพลังงานคงค้างที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญ หรือไม่สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้หมดนั่นเองค่ะ
“ระบบเผาผลาญพัง” ที่มาของไขมันสะสม
ระบบเผาผลาญพัง คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญสารอาหาร และนำพลังงาน หรือ ATP ไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดเป็นพลังงานหลงเหลือที่ร่างกายเผาผลาญได้ไม่หมด ซึ่งจะถูกเก็บสะสมในรูปแบบของไขมันส่วนเกิน กระจัดกระจายไปตามสัดส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย จนอาจเพิ่มโอกาสที่จะเกิดโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักและค่าดัชนีมวลกายเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ BMI คือ) โดยหลัก ๆ แล้ว ไขมันจะแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด

ไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนัง
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เป็นไขมันสะสมอยู่ติดกับชั้นผิวหนังของเรา ซึ่งเป็นชนิดไขมันที่อยู่ภายนอก ทำให้สัดส่วนของเราดูใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน หน้าท้อง เอว สะโพก และต้นขา โดยไขมันใต้ชั้นผิวหนังเป็นชนิดไขมันที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และสามารถลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังด้วยการควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย รวมไปถึงการใช้วิธีทางการแพทย์ อย่างดูดไขมันค่ะ

ไขมันในช่องท้อง
ไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นไขมันที่เกาะและแทรกตัวอยู่ในอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ (ไขมันพอกตับ), กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก เป็นต้น โดยไขมันช่องท้องอาจแทรกซึมเข้าไปอยู่ในหลอดเลือด ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ จนเป็นที่มาของโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด, โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
รู้หรือไม่? ดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนักได้นะ!
การดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตรขึ้นไป จะมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยลดความอยากอาหาร และดีต่อระบบเผาผลาญในร่างกาย โดยแนะนำให้แบ่งสัดส่วนการดื่มน้ำ ตั้งแต่หลังตื่นนอน ระหว่างวัน และก่อนเข้านอน

ระบบเผาผลาญพัง เกิดจากอะไร
ระบบเผาผลาญพัง เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ทั้งในเรื่องของอายุที่มากขึ้น, ความเครียด, การอดอาหาร หรือการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี, มวลกล้ามเนื้อในร่างกาย รวมถึงภาวะขาดไทรอยด์ โดยปัจจัยเหล่านี้เองจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญพัง
- อายุมาก ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายเริ่มเสื่อมโทรมตามธรรมชาติ รวมถึงระบบเผาผลาญก็แย่ลงด้วย นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องอายุยังทำให้มวลกล้ามเนื้อน้อยลง ส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานทำงานได้น้อยลง
- ความเครียด ถือว่าเป็นตัวการสำคัญ ที่ส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ซึ่งเมื่อเรามีความเครียด จะส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จนกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกาย เป็นสาเหตุของระบบเผาผลาญพัง นอกจากนี้ ความเครียดจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดฮอร์โมนเครียด (คอร์ติซอล) ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกหิวได้บ่อย กินเยอะ อยากกินแต่ของหวาน ของมัน ๆ และเป็นที่มาของพุงเครียด
- การอดอาหาร หรือการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี จนส่งผลให้ระบบเผาผลาญพัง ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับอาหารน้อยลง ร่างกายเราจะจดจำทันที และปกป้องร่างกายไม่ให้ขาดสารอาหาร โดยจะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลง เพื่อเก็บพลังงานไว้นั่นเอง ซึ่งระบบเผาผลาญพัง เกิดจากการที่ร่างกายขาดสารอาหารเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ร่างกายจดจำและเผาผลาญได้น้อยลงตามมาค่ะ
- มวลกล้ามเนื้อน้อย เกิดขึ้นได้กับคนที่ขาดการออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ โดยในคนที่มีมวลกล้ามเนื้อเยอะ ร่างกายก็จะยิ่งส่งพลังงานไปให้กล้ามเนื้อใช้มากขึ้น แต่กลับกัน ในคนที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย ร่างกายก็จะเกิดการเผาผลาญที่น้อยกว่า
- ภาวะขาดไทรอยด์ ซึ่งในรายที่มีภาวะนี้อยู่ อาจสังเกตได้ง่ายเลยว่า ทำไมกินแล้วอ้วนง่าย นั่นก็เป็นเพราะไทรอยด์มีส่วนทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่มีภาวะขาดไทรอยด์ นั่นก็หมายถึงระบบเผาผลาญก็จะทำงานได้น้อยลงค่ะ

“ความเครียด” ที่มาของระบบเผาผลาญพัง
Check! ระบบเผาผลาญพัง อาการเป็นอย่างไร
- ผ่านการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย กินน้อยลงแล้ว แต่น้ำหนักไม่ลด สัดส่วนไม่ลง หรืออ้วนง่ายผิดปกติ
- ระบบเผาผลาญพัง อาการแบบรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง รู้สึกไม่ค่อยมีแรง
- อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
- ระบบเผาผลาญพัง อาการที่พบได้บ่อย คือ ปวดหัว เวียนหัว หน้ามืดบ่อย ๆ
- มีอาการหลับยาก หรือรู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลา
- กระปรี้กระเปร่า สดชื่น ในช่วงตอนเย็นมากกว่า
- ระบบเผาผลาญพัง อาการที่พบได้ในผู้หญิง คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ในบางรายอาจมีความรู้สึกทางเพศลดลง
ตัวช่วยคุมหิว อิ่มนาน ไม่ต้องอด!
โปรแกรมลดน้ำหนักด้วย Amara Pen เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักแบบปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเป็นการฉีดตัวยา GLP-1 Analogue ที่ออกฤทธิ์สั่งการให้สมองส่วนที่ควบคุมความหิว-ความอิ่ม ทำให้เรารู้สึกหิวน้อยลง อิ่มได้นานขึ้น ช่วยควบคุมให้ร่างกายเรารับประทานอาหารในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลดน้ำหนัก ที่ช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง 10-15% ภายในระยะเวลา 3 เดือน ขนาดกระเพาะเล็กลงภายใน 6 เดือน

การใช้โปรแกรมลดน้ำหนัก Amara Pen ที่ Amara Clinic เรามีการควบคุมการใช้ยาอย่างเหมาะสม ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการโดยเฉพาะ นอกจากนี้ Amara Pen ยังได้รับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรืออย. สหรัฐอเมริกา (U.S. FDA), เกาหลีใต้ (KFDA) และประเทศไทย (Thai FDA) สามารถใช้ได้ไร้กังวลแน่นอนค่ะ
ระบบเผาผลาญพัง แก้ยังไงให้กลับมาเหมือนเดิม
หากสังเกตตัวเองแล้วพบว่า ระบบเผาผลาญพัง อาการเหมือนกับที่หมอได้อธิบายไว้ในข้างต้นแล้ว สิ่งที่จะช่วยซ่อมแซมหรือแก้ระบบเผาผลาญพังให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยว่า ระบบเผาผลาญพัง เกิดจากอะไร หากเป็นที่ระบบเผาผลาญพัง เกิดจากโรคบางชนิด อย่างภาวะขาดไทรอยด์ ก็ต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี หรือหากพบว่า ระบบเผาผลาญพัง เกิดจากพฤติกรรมต่าง ๆ ก็ต้องเริ่มปรับเปลี่ยน ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพจากภายใน เพื่อฟื้นฟูระบบเผาผลาญและแก้ระบบเผาผลาญพัง ให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งจะส่งผลให้การลดน้ำหนัก และรูปร่างกลับมาดีขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับภาวะระบบเผาผลาญพัง วิธีแก้ก็ทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และหันมาลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะว่า การซ่อมระบบเผาผลาญพังให้กลับมาปกติได้อีกครั้ง เราต้องทำอย่างไรบ้าง
ออกกำลังกายเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
ปัจจัยที่สำคัญในการแก้ระบบเผาผลาญพังให้กลับมาปกติ นั่นก็คือ การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ด้วยการออกกำลังกายประเภท Weight Training ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน 2-4 วันต่อสัปดาห์ ควบคู่กับการออกกำลังกายแบบ Cardio เช่น การเดิน, การวิ่ง, ว่ายน้ำ ประมาณ 3-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเร่งการเผาผลาญพลังงานค่ะ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่า 9 วันปรับระบบเผาผลาญได้จริงหรือไม่? คำตอบคือ ระบบเผาผลาญของแต่ละคนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ มวลกล้ามเนื้อ พันธุกรรม และกิจกรรมประจำวัน และการปรับระบบเผาผลาญที่ยั่งยืนต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอค่ะ

ให้ความสำคัญกับอาหาร
ระบบเผาผลาญพัง ท้องอืด แก้ยังไง ต่อมาก็ต้องเป็นเรื่องของอาหารการกินค่ะ โดยหมอแนะนำให้เน้นทานอาหารประเภทโปรตีน หรือสูตรอาหารฟื้นฟูระบบเผาผลาญ เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นไขมันเลว เลือกทานไขมันดี ทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (ไม่ขัดสี) ทานผักและผลไม้ที่หลากหลาย ผลไม้น้ำตาลน้อย (ผลไม้ลดความอ้วน) นอกจากนี้ในคนที่ต้องการลดน้ำหนัก สารอาหารประเภทโปรตีนถือว่าเป็นส่วนช่วยสำคัญที่ทำให้เราอิ่มนาน เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพราะยิ่งมีมวลกล้ามเนื้อเยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

การพักผ่อนสำคัญมาก
การแก้ระบบเผาผลาญพัง ต่อมาคือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงความเครียด และที่สำคัญ คือ การเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา โดยค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ปรับ เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายเกิดการฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ระบบเผาผลาญเกิดการปรับตัวร่วมด้วยค่ะ
ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี
การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ต้องไม่อดอาหาร ไม่ข้ามมื้ออาหาร และรับประทานอาหารให้มีปริมาณแคลอรี่ที่เพียงพอต่อร่างกาย ไม่จำกัดจนน้อยเกินไป ร่วมกับการออกกำลังกาย ก็จะช่วยแก้ระบบเผาผลาญพังได้ค่ะ หากลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น ทำ IF ผิดวิธี ระบบเผาผลาญอาจจะพังมากกว่าเดิมได้ค่ะ
นอกจากนี้ หมอแนะนำให้เราแบ่งรับประทานอาหารทีละน้อย แต่ทานให้ได้หลาย ๆ มื้อ ก็จะช่วยควบคุมความหิวได้ดี โดยที่ปริมาณแคลอรี่ไม่สูงเกินไป (ใครยังไม่มีไอเดียว่าจะรับประทานอะไรที่ดีต่อการลดน้ำหนัก สามารถเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับอาหารแคลอรี่ต่ำ ได้ที่ >> อาหารแคลน้อย)
ลีนไขมันได้ง่าย หุ่นเฟิร์มในไม่กี่ชั่วโมง!
อายุเยอะขึ้น ระบบเผาผลาญย่อมไม่ดีเหมือนคนอายุน้อย ทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมทั่วร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินที่ทำให้รูปร่างไม่สวย ทำให้มีหุ่นเฟิร์มในไม่กี่ชั่วโมง นั่นก็คือ ดูดไขมัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยไม้เด็ดที่จะทำให้สัดส่วนกลับมาสวยเป๊ะได้ไม่ยากค่ะ


ที่ Amara Clinic เราเป็นศูนย์ดูดไขมันและเติมไขมันโดยตรง ซึ่งมีคนไข้ที่มีปัญหาสัดส่วนที่หลากหลาย รวมไปถึงเคสระบบเผาผลาญรวน ระบบเผาผลาญไม่ดี แต่ทั้งนี้ หมอแนะนำให้ว่า หลังดูดไขมันไปแล้ว คนไข้จะต้องดูแลตัวเองด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อรักษารูปร่างที่สวยเป๊ะให้อยู่กับเราไปได้นาน ๆ ค่ะ นอกจากนี้ การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ยังเป็นการแก้ระบบเผาผลาญพังในระยะยาวได้อีกด้วยค่ะ
Amara สรุปให้ (Highlight )
- ระบบเผาผลาญพัง คือ ภาวะที่ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญขั้นต่ำน้อยกว่าปกติ โดยไม่สามารถดึง เอาสารอาหารมาใช้เป็นพลังงานได้
- ระบบเผาผลาญพัง เกิดได้จากอายุที่มากขึ้น, ความเครียด, ลดน้ำหนักด้วยวิธีผิด ๆ (อดอาหาร), มวล กล้ามเนื้อน้อย และภาวะขาดไทรอยด์
- วิธีแก้ระบบเผาผลาญพัง คือ ออกกำลังกายเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ, ควบคุมอาหาร, พักผ่อนให้เพียงพอและลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ไม่อดอาหาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

สรุป
โดยสรุปแล้ว ระบบเผาผลาญพัง เกิดจากอายุที่มากขึ้น, ความเครียด, การอดอาหาร หรือลดน้ำหนักผิดวิธี, มวลกล้ามเนื้อน้อย และภาวะของโรคบางชนิด อย่างภาวะขาดไทรอยด์ ซึ่งหมอแนะนำให้เราลองสังเกตุตัวเองจากข้อมูลข้างต้นที่ได้อธิบายไปแล้วว่า ระบบเผาผลาญพัง อาการมีอะไรบ้าง หากพบว่าเริ่มมีอาการแปลกไป ก็ต้องมาดูกันว่าระบบเผาผลาญพัง แก้ยังไงให้ถูกจุด ตรงปัญหา ซึ่งหากเกิดจากภาวะโรคบางชนิด เราควรเข้ารับการรักษาจากโรคนั้น ๆ แต่หากเป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ ก็ต้องแก้ระบบเผาผลาญพังจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและเร่งการเผาผลาญ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญมีการปรับตัวได้ดีตามมาค่ะ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet
พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)