โดยปกติแล้ว เมื่อคุณแม่คลอดบุตรได้ประมาณ 4-6 สัปดาห์ คุณหมอจะนัดคุณแม่เพื่อตรวจร่างกายหลังคลอดโดยจะตรวจดูเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดว่ากลับสู่ภาวะปกติหรือยัง อาทิ ฮอร์โมน, ขนาดของมดลูก, เต้านม และภาวะจิตใจหลังคลอด รวมไปถึงเรื่องน้ำหนักตัวหลังคลอด
ซึ่งโดยปกติแล้ว หลังคุณแม่คลอดลูกได้ 6 สัปดาห์ น้ำหนักจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ประมาณ 8-12 กิโลกรัม จนใกล้เคียงกับน้ำหนักปกติก่อนตั้งครรภ์ คุณแม่บางท่านมีสัดส่วนเข้าที่ไว น้ำหนักลดจนเป็นปกติ แต่ก็ยังมีคุณแม่หลังคลอดจำนวนไม่น้อยที่ยังมีปัญหาเรื่องอ้วนหลังคลอด ลดน้ำหนักยาก ซึ่งวันนี้หมอมีวิธีลดน้ำหนักหลังคลอด และลดหุ่นหลังคลอดมาฝากกัน รวมไปถึงตอบคำถามยอดฮิต อ้วนหลังคลอดลดยังไง, หลังคลอดกินอะไรได้บ้างที่ไม่ทำให้อ้วน รวมไปถึงหลังคลอดคุณแม่ทำสวยอะไรได้บ้าง ติดตามได้ในบทความนี้ค่ะ
สาเหตุที่ทำให้อ้วนหลังคลอด
อย่างที่หมอเกริ่นไปข้างต้นแล้วว่า หลังคลอดลูก ร่างกายคุณแม่จะเริ่มปรับตัวและน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ บางคนสามารถกลับไปมีรูปร่างที่สมส่วนได้ปกติ อาจะมีปัญหาเรื่องผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้ เช่น หน้าท้องและหน้าอกที่หย่อนคล้อย แต่ก็ยังมีคุณแม่หลายคนที่ประสบกับปัญหาอ้วนหลังคลอด ทั้งที่ควบคุมอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายทุกวัน แต่ทำไมยังมีภาวะอ้วนหลังคลอด ลดไม่ลงกันอยู่ เดี๋ยวเราลองมาเช็คสาเหตุที่ทำให้คุณแม่อ้วนหลังคลอดกันดูก่อนค่ะ
อ้วนหลังคลอดจากน้ำหนักตัวคงค้าง
โดยปกติแล้ว หลังคลอดบุตร น้ำหนักตัวของคุณแม่จะลดลงทันทีประมาณ 6 กิโลกรัม และยังจะลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากร่างกายขับน้ำส่วนเกินที่สะสมอยู่ออกไป แต่หลังคลอดร่างกายจะยังเก็บสะสมสารอาหารเพื่อเอาไว้เพื่อผลิตน้ำนมให้กับลูกในช่วง 6 เดือนแรก จึงทำให้คุณแม่ยังมีน้ำหนักเกินหรือมากกว่าปกติบ้าง แต่ทั้งนี้จะค่อย ๆ ลดเอง จึงไม่ต้องกัลวล
อ้วนหลังคลอดจากพฤติกรรม
การใช้ชีวิตประจำวันและการรับประทานอาหารของคุณแม่หลังคลอดอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างไม่รู้ตัวค่ะ อาทิ ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ระบบเผาผลาญพัง รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างไม่ระมัดระวัง เช่น ทานข้าวไม่เป็นเวลา ทานจุบจิบ ทานอาหารที่มีแคลอรี่มากเกินที่ร่างกายต้องการ และไม่ออกกำลังกาย
อ้วนหลังคลอดจากการให้ลูกหยุดกินนมแม่เร็ว
“แค่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ น้ำหนักก็ลดได้” คุณแม่หลายท่านอาจสงสัยว่ามันเป็นไปได้อย่างไร โดยปกติแล้วการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเป็นการเผาผลาญพลังงานได้ 500-800 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เนื่องจากการผลิตน้ำนมในแต่ละครั้งเป็นการดึงเอาไขมันมาใช้ และหากให้นมลูกอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป จะสามารถลดไขมันส่วนเกินที่สะสมตามสะโพก หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาได้มาก รวมทั้งยังทำให้น้ำหนักตัวกลับมาปกติอีกด้วยค่ะ ซึ่งหากคุณแม่หยุดให้นมลูกเร็วก็จะทำให้มีไขมันสะสมและน้ำหนักส่วนเกินมากกว่าคุณแม่ที่ให้นมลูก 6 เดือนขึ้นไปนั่นเองค่ะ
โรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
ในระหว่างการตั้งครรภ์อาจมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ อาทิ ท้องนอกมดลูก, ภาวะแท้ง, โรคความดันโลหิตสูง รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวพันกับความอ้วนนั่นก็คือ โรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่นอกจากจะส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์แล้ว ยังทำให้เกิดผลพวงของความอ้วนหลังคลอดอีกด้วย เพราะคุณแม่ที่เป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์จะมีความอยากอาหารหวาน ๆ และไขมันมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
คุณแม่อายุมาก
เมื่อเราอายุมากขึ้นตั้งแต่ 20-30 ปี มวลกล้ามเนื้อจะลดลงตามไปด้วย ซึ่งเซลล์กล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ระบบเผาผลาญในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุมากทำงานได้น้อยลง ทำให้คุณแม่หลังคลอดที่อายุมากลดน้ำหนักยากกว่าในคนอายุน้อยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ลดความอ้วนหลังคลอด ต้องลดอย่างไรไม่ให้เกิดอัตราย หาคำตอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ลดน้ำหนักหลังคลอด
เกร็ดความรู้ ช่องคลอดหลวม อีกหนึ่งปัญหาคุณแม่หลังคลอด
นอกจากเรื่องอ้วนหลังคลอดแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลังคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ มักพบกับปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ อันเนื่องมาจากการยืดขยายของช่องคลอด รวมถึงการตัดฝีเย็บเพิ่มในระหว่างการคลอดบุตร โดยกลไลและขั้นตอนเหล่่านี้มีผลทำให้ช่องคลอดหลวม ไม่กระชับได้ค่ะ
สำหรับปัจจัยที่จะทำให้ช่องคลอดหลวมมากน้อยเพียงใด ก็อาจขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเด็กทารก รวมไปถึงจำนวนการคลอดบุตร ถ้าคุณแม่มีบุตรมากกว่า 1 คน และคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ช่องคลอดจะหลวมมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
ติดตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาช่องคลอดหลวม และวิธีแก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ >> กระชับช่องคลอด
5 อาหารลดน้ำหนักหลังคลอด
คุณแม่หลายท่านเป็นกังวลว่า หลังคลอดกินอะไรได้บ้างจึงไม่ทำให้อ้วน หมอแนะนำว่าคุณแม่หลังคลอดควรทานอาหารให้พอดี พออิ่ม เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน ขนม น้ำหวาน น้ำอัดลม โดยเน้นทานผักผลไม้ที่มีกากใยจะดีกว่าค่ะ ซึ่งจะควบคุมปริมาณแคลอรี่ได้ดีมาก เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือ ทานผลไม้ให้ได้ 5 ส่วน ใน 1 วัน โดยให้ทานก่อนอาหารจะทำให้อิ่มไว และยังได้วิตามินซีซึ่งร่างกายจะดูดซับได้ดีตอนท้องว่างอีกด้วยค่ะ รวมไปถึงรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพื่อช่วยลดความโหยอันเป็นสาเหตุทำให้เราทานอาหารแบบโหมกระหน่ำมากยิ่งขึ้น
ไข่
คุณแม่หลังคลอดควรรับประทานอาหารประเภทโปตีนมาก ๆ โดยเฉพาะไข่ไก่ เนื่องจากไข่ไก่ให้พลังงานน้อยกว่าไข่เป็ด ยิ่งเป็นไข่ต้มจะดีมากกว่าการทอด โดยทานวันละ 3 ฟอง (มื้อละ 1 ฟอง) หรือถ้าคุณแม่มีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลสูงก็สามารถเลือกทานแต่ไข่ขาวได้เลยค่ะ
โปรตีน
อาจจะเน้นโปรตีนที่มาจากพืชที่ย่อยง่ายมากกว่าเนื้อสัตว์ เช่น ถั่วชนิดต่าง ซึ่งคุณแม่สามารถได้สารอาหารโปรตีนที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ พยายามรับประทานให้ได้มื้อนึงประมาณ 1 ฝ่ามือ
ไขมันดี
คุณแม่หลังคลอดสามารถเลือกทานไขมันได้ แต่ต้องเป็นไขมันดีเท่านั้นนะคะ ซึ่งจะพบได้ในพืชและเนื้อสัตว์ อาทิ อะโวคาโด, ถั่วเปลือกแข็ง, ธัญพืช, น้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัว (น้ำมันมะกอก, น้ำมันทานตะวัน, น้ำมันรำข้าว) รวมไปถึงปลาที่มีกรดไขมันสูง (แซลมอน, ทูน่า, ซาดีน)
ผักใบเขียว
คุณแม่หลังคลอดควรรับประทานผักใบเขียวให้ได้ประมาณ 2-3 ทัพพีต่อมื้อ เลือกทานได้ทั้งผักสดและผักต้ม ซึ่งจะช่วยทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนานขึ้น รวมไปถึงกากใยในผักช่วยให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น
ข้าวไม่ขัดสี
เลือกทานข้าวไม่ขัดสีแทนข้าวขาว และในมื้อเย็น คุณแม่ควรลดหรืองดทานข้าวในมื้อเย็น ให้เลือกทานโปรตีนแทน เช่น ปลาแซลมอนย่าง, สลัดอกไก่ต้ม ฯลฯ ส่วนมื้ออื่น ๆ ให้ทานข้าวในปริมาณที่เหมาะสม
เกร็ดความรู้ : สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนั่นก็คือ “ทานเข้าไปมากกว่าที่ร่างกายใช้” เมื่อแคลอรี่สูงเกินไป ร่างกายก็จะเก็บกักพลังงานส่วนเกินในรูปแบบของไขมันนั่นเองค่ะ ดังนั้น การฝึกนับแคลอรี่เพื่อลดน้ำหนักแบบยั่งยืน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะอ้วนหลังคลอด (อ่านเพิ่มเติม : ลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่)
พฤติกรรมลดอ้วนหลังคลอด
- ให้นมลูกเอง มีผลดี 2 ต่อ ต่อแรกคือ เผาผลาญพลังงานได้ดี ต่อที่สองคือ ลูกได้ดื่มนมแม่ที่มีสารอาหารครบถ้วน
- อยู่ไฟหลังคลอด เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายได้เร็ว ทำให้ร่างกายคุณแม่ฟื้นตัวได้ไวยิ่งขึ้น
- ดื่มน้ำลดอ้วน การดื่มน้ำเยอะ ๆ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี รวมไปถึงลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย
- ขยับบ่อย ๆ แนะนำให้คุณแม่ขยับร่างกายให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน
- นับแคลอรี่ คุณแม่หลังคลอดควรทานอาหาร 1,800-2,000 กิโลแคลอรี่/วัน
- ห้ามอดอาหาร เพราะจะยิ่งทำให้อัตราการเผาผลาญได้น้อยลง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความสมดุล เป็นผลให้ระบบต่าง ๆ รวมไปถึงระบบเผาผลาญทำงานได้ปกติ
- ลด-งดข้าวในมื้อเย็น เลือกทานเป็นโปรตีนจากเนื้อปลาและผักผลไม้แทน
ออกกำลังกายลดอ้วนหลังคลอด
ในช่วง 1-3 เดือนหลังคลอด เป็นเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนตอนก่อนตั้งครรภ์ หากคุณแม่รู้สึกอยากออกกำลังกายในช่วงนี้ก็สามารถทำได้เลยค่ะ แต่หากเป็นคุณแม่ที่ผ่าท้องคลอดควรรอให้ครบ 2 เดือน เพื่อให้แผลผ่าตัดหายสนิทเสียก่อนค่ะ ซึ่งในคุณแม่ที่คลอดวิธีธรรมชาติสามารถเริ่มออกกำลังกายใน 1 เดือนหลังคลอด โดยเลือกการออกกำลังกายที่ไม่มีแรงกระแทก อาจเริ่มต้นด้วยการเดินวันละ 5 นาที, การปั่นจักรยานอยู่กับที่, การว่ายน้ำ, เล่นโยคะหลังคลอด หรือแม้กระทั่งการทำงานบ้าน แต่ทั้งนี้ยังต้องระวังเรื่องการออกกำลังกายดังต่อไปนี้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่ใช้แรงมาก ๆ เช่น ยกน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเกร็งบริเวณหน้าท้อง เช่น ท่า Plank, Hip Lift, V Ups เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องมีการกระโดด หรือมีแรงกระแทกแรง ๆ เช่น กระโดนเชือก, การวิ่ง เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
- คุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาพุงป่อง ลดไม่ลง สามารถติดตามอ่านได้ที่ 6 วิธีลดหน้าท้องหลังคลอดเร่งด่วน
คุณแม่อ้วนหลังคลอดทำสวยอะไรได้บ้าง
เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นกับคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสาเหตุของน้ำหนักตัวที่มากขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งมีผลทำให้สัดส่วนและผิวพรรณของคุณแม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่ที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่และอยากกลับมามีรูปร่างและสัดส่วนที่สวยเป๊ะอีกครั้ง หรืออยากลดหุ่นหลังคลอด ที่ Amara Clinic พร้อมให้คำแนะนำคุณแม่หลังคลอดทุกท่านค่ะ
ปัญหา : ลดน้ำหนักยาก อยากลดน้ำหนักหลังคลอด
สาเหตุ : อาจเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายมีความแปรปรวน จนไปกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้กินจุกจิก หิวบ่อย
การแก้ไข : ปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen
ปัญหา : เต้านมไม่กระชับ
สาเหตุ : ระหว่างตั้งครรภ์เต้านมของคุณแม่จะขยายใหญ่ เนื่องจากฮอร์โมนและมีการผลิตน้ำนม เมื่อคุณแม่หยุดให้นมลูกไปสักระยะเต้านมจะหยุดผลิตน้ำนม เต้านมจึงหดตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้
การแก้ไข : ฉีดไขมันหน้าอก
ปัญหา : พุงป่อง พุงย้วย
สาเหตุ : ส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (เนื่องจากการขยายตัวของท้อง) รวมไปถึงชั้นไขมันที่มีการดันตัวออกมา จึงทำให้หน้าท้องป่อง บางท่านอาจมีปัญหาผิวหน้าท้องย้วยร่วมด้วย
การแก้ไข : ดูดไขมัน+กระชับด้วย Plasma Jet / ตัดหนังหน้าท้อง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลดหุ่นหลังคลอด)
ปัญหา : เนื้อปลิ้นที่ข้าง รักแร้ (นมน้อย)
สาเหตุ : เกิดจากไขมันส่วนเกินที่สะสมตามสัดส่วน รวมไปถึงด้านข้างรักแร้หรือปีกหลัง
การแก้ไข : ดูดไขมันนมน้อย
ปัญหา : ผิวแตก มีเซลลูไลท์
สาเหตุ :ผิวเปลือกส้มเป็นอีกปัญหาที่มาพร้อมกับไขมันสะสมที่เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดบุตร โดยมีลักษณะเป็นผิวที่ไม่เรียบ ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ
การแก้ไข : Venus Legacy นวดลดเซลลูไลท์ ยกกระชับผิวด้วยคลื่น RF
คำแนะนำคุณแม่หลังคลอด
ปัญหา
- ลดน้ำหนักยาก อยากลดน้ำหนักหลังคลอด
สาเหตุ
- อาจเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายมีความแปรปรวน จนไปกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้กินจุกจิก หิวบ่อย
การแก้ไข
ปัญหา
- เต้านมไม่กระชับ
สาเหตุ
- ระหว่างตั้งครรภ์เต้านมของคุณแม่จะขยายใหญ่ เนื่องจากฮอร์โมนและมีการผลิตน้ำนม เมื่อคุณแม่หยุดให้นมลูกไปสักระยะเต้านมจะหยุดผลิตน้ำนม เต้านมจึงหดตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้
การแก้ไข
- ฉีดไขมันหน้าอก
ปัญหา
- พุงป่อง พุงย้วย
สาเหตุ
- ส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (เนื่องจากการขยายตัวของท้อง) รวมไปถึงชั้นไขมันที่มีการดันตัวออกมา จึงทำให้หน้าท้องป่อง บางท่านอาจมีปัญหาผิวหน้าท้องย้วยร่วมด้วย
การแก้ไข
- ดูดไขมัน+กระชับด้วย Plasma Jet
- ตัดหนังหน้าท้อง
ปัญหา
- เนื้อปลิ้นที่ข้างรักแร้ (นมน้อย)
สาเหตุ
- เกิดจากไขมันส่วนเกินที่สะสมตามสัดส่วน รวมไปถึงด้านข้างรักแร้หรือปีกหลัง
การแก้ไข
- ดูดไขมันนมน้อย
ปัญหา
- ผิวแตก มีเซลลูไลท์
สาเหตุ
- ผิวเปลือกส้มเป็นอีกปัญหาที่มาพร้อมกับไขมันสะสมที่เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดบุตร โดยมีลักษณะเป็นผิวที่ไม่เรียบ ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ
การแก้ไข
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : วิธีแก้ไข
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลังคลอดบุตรจะดูดไขมันได้ตอนไหน ต้องบทความนี้ คุณแม่หลังคลอดดูดไขมันได้ไหม
- ดูดไขมันดีไหม? ทำแล้วหุ่นกลับมาสวยจริง หรือแค่จกตา?
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
หมอเชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดที่มีภาวะอ้วนหลังคลอดแทบทุกราย คงอยากกลับมามีรูปร่างและสัดส่วนที่เข้าที่เหมือนเดิม แต่หมอไม่อยากให้คุณแม่เครียดกับการลดน้ำหนักหลังคลอดมากจนเกินไป ควรลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งจะส่งผลดีกับสุขภาพในระยะยาว ส่วนคุณแม่คนไหนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วยังเห็นผลไม่ดีเท่าที่ควร ก็สามารถพูดคุยปรึกษาหมอได้เลยค่ะ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
วิธีแก้ไขปัญหาคุณแม่หลังคลอด
คุมน้ำหนัก ลดหิว อิ่มไว ด้วยปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen
แก้ปัญหาเต้านมไม่กระชับ เนินหน้าอกอวบอิ่ม ด้วยเทคนิคฉีดไขมันหน้าอก
เทคนิคดูดไขมันผิวไม่ย้วย ด้วยการนำ body-jet มาผสานกับ J Plasma กลายเป็น Plasma Jet นวัตกรรมในการลดสัดส่วน
จบปัญหาหน้าท้องย่นย้วย ด้วยเทคนิคตัดหนังหน้าท้อง
วงแขนกลับมาสวยกระชับ ด้วย ดูดไขมันนมน้อย หรือ ผ่าตัดนมน้อย
ผิวเรียบเนียน กำจัดผิวเปลือกส้ม ด้วยเทคโนโลยี Venus Legacy นวดสลายเซลลูไลท์