เรื่องของภาพลักษณ์ภายนอกหรือรูปร่างหน้าตาในปัจจุบันนี้ (ปี 2023) เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจอย่างมาก อาจจะเพราะว่ามีต้นแบบมาจากคนดัง หรือเป็นเรื่องของเทรนด์ต่าง ๆ ร่วมด้วย ลักษณะของใบหน้าที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ต้องยกให้ “หน้าเรียว” ครับ บางคนอาจจะลดน้ำหนักมาแล้ว หรือผ่านการทำหัตถการยกกระชับใบหน้ามาแล้ว แต่ก็พบว่าปัญหาเรื่องแก้มยุ้ยมันไม่หายไป ใครที่เป็นแบบนี้อยู่ หมอแนะนำให้มาทำความรู้จักกับการตัดกระพุ้งแก้ม หรือตัดไขมันกระพุ้งแก้มในบทความนี้เลยครับ!
- จบปัญหาแก้มป่อง แก้มยุ้ย แก้มเยอะในครั้งเดียว
- หน้าเรียวกระชับ V-Shape มองมุมไหนก็ดูเป๊ะ
- ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ไม่ต้องวางยาสลบ
- แผลผ่าตัดอยู่ด้านใน มองจากภายนอกไม่เห็น
- เจ็บน้อย ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน
- เหมาะกับคนที่ทำมาทุกวิถีทางแล้วไม่เห็นผล
แก้มยุ้ย แก้มเยอะ หน้ากลม เกิดจากอะไร?
ไขมันกระพุ้งแก้มกับไขมันแก้มคือไขมันที่อยู่คนละส่วนกัน ไม่ใช่อันเดียวกันอย่างที่หลายคนเข้าใจนะครับ ไขมันแก้มเป็นไขมันที่อยู่ชั้นบนเหนือกล้ามเนื้อขึ้นไป หรือที่เรียกว่าไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ไขมันแก้มจะทำให้แก้มมีความนิ่ม บีบขึ้นมาได้เยอะ เกิดจากการสะสมของไขมันปกติทั่วไป สามารถกำจัดได้ด้วยการฉีดสลายไขมัน, ใช้เครื่องนวดหรือเครื่องยกกระชับที่มีประสิทธิภาพในการสลายไขมันได้ หรือดูดไขมันออกไป เป็นต้น
ส่วนไขมันกระพุ้งแก้มเป็นไขมันที่อยู่ชั้นลึก หรือไขมันที่อยู่ใต้กล้ามเนื้อใบหน้าส่วนล่าง (เรียกส่วนนี้ว่ากระพุ้งแก้ม) เพราะว่าไขมันกระพุ้งแก้มอยู่ใต้กล้ามเนื้อ เราจึงไม่สามารถบีบขึ้นมาได้ หรือเมื่อจับบริเวณแก้มแล้วจะมีความแข็งของกล้ามเนื้อ มากกว่าความนิ่มของไขมันนั่นเองครับ
การกำจัดไขมันกระพุ้งแก้ม จึงไม่สามารถทำได้ด้วยการฉีดสลายไขมัน นวดสลายไขมัน หรือดูดไขมัน วิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ สามารถลงลึกได้ถึงกล้ามเนื้อใบหน้าก็จริง แต่ไม่สามารถทะลุลงไปถึงไขมันกระพุ้งแก้มได้ ดังนั้น เราเลยต้องพึ่งการผ่าตัดกระพุ้งแก้มครับ
ตัดกระพุ้งแก้ม ตัดส่วนไหนออกไปบ้าง?
การตัดไขมันกระพุ้งแก้มหรือตัดกระพุ้งแก้ม (Buccal Fat Removal) จะเป็นการตัดไขมันที่อยุ่บริเวณด้านล่างของกล้ามเนื้อใบหน้าครับ ตามภาพประกอบด้านบนนี้เลย มีจุดประสงค์คือการทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป เปลี่ยนใบหน้าที่มีแก้มป่องเป็นหน้าที่เรียว ดูเฉียบคม และดูเป๊ะขึ้น ใบหน้าจะดูเล็ก ไม่มีส่วนเกิน มองมุมไหนก็ดูไม่อ้วนแน่นอนครับ
ตัดกระพุ้งแก้มเป็นการศัลยกรรมที่เห็นผลได้ชัดเจนและถาวร อีกทั้งยังนับว่าเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก จึงไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวของร่างกายนานเลย คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเพียง 30 นาที – 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ขั้นตอนการตัดกระพุ้งแก้ม
- ให้คนไข้บ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อให้ช่องปากสะอาดและไม่เสี่ยงติดเชื้อ
- ฉีดยาชาเข้าไปบริเวณแก้มล่างจากภายในช่องปาก
- แพทย์เปิดแผลภายในช่องปากใกล้ ๆ กับฟันกราม
- เปิดแผลลงลึกไปจนถึงชั้นไขมันใต้กล้ามเนื้อใบหน้า
- ผ่าตัดและเลาะนำไขมันกระพุ้งแก้มออกมา (ไขมันกระพุ้งแก้มจะมีลักษณะเป็นก้อน)
- เย็บปิดปากแผลด้วยไหมละลาย (ไม่มีแผลจากด้านนอกให้เห็น)
ตัดกระพุ้งแก้มเจ็บไหม?
ตัดกระพุ้งแก้มเจ็บไหม? เจ็บครับ แต่เจ็บในระดับที่ทนได้ และถือว่าเจ็บน้อยมาก เมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างอื่น ระหว่างทำจะมีการระงับความเจ็บปวดด้วยยาชาเฉพาะที่ คนไข้บางรายอาจจะไม่รู้สึกเจ็บเลย หรือบางรายอาจจะรู้สึกเจ็บได้บ้างเล็กน้อย ตรงนี้จะขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วยเช่นกันครับ หลังจากตัดกระพุ้งแก้มมาสักพักหนึ่ง ยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ ช่วงนี้อาจจะรู้สึกเจ็บและปวดบริเวณกระพุ้งแก้มมาก ๆ ได้ ซึ่งหมอจะให้ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และยาลดบวมไปเพื่อบรรเทาอาการ สามารถทานตอนที่มีอาการปวดได้เลยครับ
ผลข้างเคียงหลังตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
บางคนอาจจะกังวลว่าถ้าตัดกระพุ้งแก้มไปแล้ว ต้องรับมือกับอาการอะไรบ้าง? ตัวเองจะทนไหวไหม? โอเคครับ สำหรับผลข้างเคียงหลังตัดกระพุ้งแก้มที่สามารถพบได้เป็นปกติ จะมีอาการเจ็บ, ปวด, ระบม, เจ็บแปลบ และบวมช้ำเป็นหลัก ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้น้อย แต่ค่อนข้างอันตราย คือ เลือดออกไม่หยุด, มีหนองไหลออกมาจากแผล, แผลมีกลิ่นเหม็น คลื่นไส้อาเจียน มีไข้ขึ้น, เหงื่อออกมาผิดปกติ, หายใจลำบาก หรือรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลมากจนถึงขั้นทนไม่ไหว หากพบพบอาการแล้วให้แจ้งแพทย์หรือผู้ที่ดูแลโดยด่วนเลยนะครับ ไม่ควรปล่อยไว้นาน
การดูแลตัวเองหลังตัดกระพุ้งแก้ม
- หลังตัดกระพุ้งแก้ม 3 วันแรกให้ประคบเย็น หลังจากนั้นให้ประคบอุ่นต่ออีก 2-3 วัน
- นอนหนุนหมอนสูง ให้ใบหน้าอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ จะช่วยให้อาการบวมช้ำดีขึ้น
- รับประทานยาต่าง ๆ ที่แพทย์ให้ไป เพื่อให้อาการดีขึ้น แผลหายเร็ว ร่างกายฟื้นตัวไว
- 1 สัปดาห์แรก ให้แปรงฟันในบริเวณอื่นก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลฉีด หรือไหมที่เย็บไว้หลุดออกไป
- เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว ให้ทำความสะอาดช่องปาก และบ้วนน้ำเกลือตามทุกครั้ง
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน และอาหารเหนียวแข็งไปประมาณ 2 สัปดาห์
- งดอาหารหมักดอง อาหารแสลง อาหารทะเล อาหารที่ไม่สุก แอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- เข้ามาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการหลังผ่าตัดเป็นประจำ ตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย
ตัดกระพุ้งแก้มที่ไหนดี? ทำไมต้องเลือก Amara Clinic?
- ตัดกระพุ้งแก้ม โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางโดยตรง
- เพียบพร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นศัลยแพทย์, KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน หรือแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
- แพทย์ใส่ใจและมีความละเอียดในทุกขั้นตอน ไม่เร่งเคส ไม่ทิ้งเคส
- วางแผนการรักษาและออกแบบรูปหน้าให้กับแต่ละเคสแบบเฉพาะเจาะจง
- ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการปรึกษา
- เทคนิคใหม่! เสียเลือดน้อย เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย พักฟื้นไม่นาน
- มีบริการหลังการขายและ After Care ดูแลอย่างครบครัน
- ห้องผ่าตัดใหญ่ มีระบบปลอดเชื้อ (ระบบ Positive Pressure) ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
- เน้นผลลัพธ์ที่สวยงามควบคู่ไปกับความปลอดภัยของคนไข้
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
ก่อนที่จะตัดสินใจตัดกระพุ้งแก้ม อย่าลืมหาข้อมูล ดูรีวิว และพิจารณาสถานที่ผ่าตัดให้ดีก่อนนะครับ เพราะว่ามีไม่น้อยเหมือนกันที่แพทย์ไม่เชี่ยวชาญ ทำให้ผลลัพธ์ไม่สวยงามอย่างที่คาดหวัง บางคนตัดไขมันกระพุ้งแก้มออกไป เพื่อต้องการให้หน้าเรียวขึ้นเฉย ๆ แต่กลับได้ใบหน้าตอบมาด้วย ทำให้หน้าดูโทรมยิ่งกว่าเดิม จนต้องไปหาทางแก้ไขใบหน้าให้กลับมาดูสวยและเต็มอิ่มอีกครั้ง Amara Clinic ศูนย์ศัลยกรรมเพื่อความงามที่มีบริการหลากหลาย ทั้งใบหน้าและลำตัว มีมาตรฐาน ปลอดภัย มีรีวิว และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน หากคุณเข้ามาตัดกระพุ้งแก้มที่เอมาร่าคลินิก ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic