น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงรูปร่างที่ดูใหญ่โต ทำให้ต้องใส่เสื้อผ้าไซซ์ใหญ่กว่าก่อนตั้งท้อง ทำให้คุณแม่หลังคลอดหลายท่านกลุ้มใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ? ตอนนี้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้วนะคะ เพราะหมอจะมาอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ให้อ่านกันในบทความการลดน้ำหนักหลังคลอดของ Amara Clinic นี้ค่ะ
หมอมะปรางจะพาไปพบกับสาเหตุของภาวะอ้วนหลังคลอด พร้อมคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนักหลังคลอด หรือลดความอ้วนหลังคลอด และเมื่อน้ำหนักลดแล้ว จะมีวิธีลดหุ่นหลังคลอดหรือลดพุงหลังคลอดอย่างไร ให้หุ่นคุณแม่กลับมาดูดีและมั่นใจขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาของคุณแม่หลังคลอดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาวะปัสสาวะเล็ด, ช่องคลอดหลวม, น้องสาวไม่สวย และหน้าอกเหี่ยว หน้าอกเหลว หย่อนคล้อยค่ะ สำหรับคุณแม่ที่อยากจะกลับมาดูดี หุ่นสวย สุขภาพแข็งแรง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันได้เลย!
อ้วนหลังคลอด หุ่นพัง เกิดจากอะไร
คุณแม่หลังคลอดบางท่าน อาจมีรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ลดลงไปเรื่อย โดยส่วนมากแล้วน้ำหนักจะเริ่มลดลงประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด และน้ำหนักจะเริ่มกลับมาสู่เกณฑ์ปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงหรือเหมือนกับก่อนตั้งครรภ์ แต่สำหรับคุณแม่หลังคลอดบางท่าน กลับมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวและไขมันสะสมที่ไม่ลดลง หรือลดได้น้อยมาก ๆ จนทำให้รูปร่างไม่สมส่วน เช่น มีหน้าท้องใหญ่, สะโพกใหญ่, รอบเอวหนา เป็นต้น โดยมีสาเหตุของอ้วนหลังคลอดได้ดังนี้ค่ะ
- น้ำหนักตัวคงค้าง เกิดจากน้ำส่วนเกิน และร่างกายเก็บสารอาหารไว้เพื่อผลิตน้ำนม
- พฤติกรรมการทานอาหาร เกิดจากการทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูง ทานจุกจิก ทั้งในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
- อายุมาก คุณแม่หลังคลอดที่อายุมาก จะมีมวลกล้ามเนื้อน้อย ทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานทำงานได้น้อยลง
- ภาวะแทรกซ้อน เช่น เป็นโรคเบาหวาน ที่เป็นโรคเกี่ยวพันกับโรคอ้วน ซึ่งส่งผลให้รู้สึกอยากทานอาหารมากขึ้น
- ลูกหยุดกินนมแม่เร็ว การให้นมลูกเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักหลังคลอดได้อย่างดี หากคุณแม่หยุดให้นมลูกเร็วจะทำให้น้ำหนักลดช้าและมีไขมันสะสมได้มากกว่า
สามารถเข้าไปติดตามอ่าน “ภาวะอ้วนหลังคลอด” ได้เพิ่มเติม พร้อมวิธีการดูแลตัวเองให้หุ่นกลับมาดีได้ที่ >> อ้วนหลังคลอด
ลดน้ำหนักหลังคลอด
เมื่อคุณแม่ต้องพบเจอกับภาวะอ้วนหลังคลอด ตอนนี้ก็มาถึงวิธีลดน้ำหนักหลังคลอดกันบ้างค่ะ หมออยากแนะนำก่อนนะคะว่า การลดน้ำหนักหลังคลอดนั้น จำเป็นต้องลดความอ้วนหลังคลอดอย่างถูกวิธี เพราะหากใช้วิธีผิด ๆ อย่าง การใช้ยาลดน้ำหนักที่มีขายตามท้องตลาด หรือ การอดอาหาร เพื่อลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อาจเกิดอันตรายกับร่างกายของคุณแม่ได้นะคะ ซึ่งการลดน้ำหนักหลังคลอดอย่างถูกวิธีจะต้องประกอบไปด้วย ระยะเวลาและน้ำหนักที่ลดลงอย่างเหมาะสม, การควบคุมอาหาร ห้ามอด, การขยับร่างกายออกกำลังกาย รวมไปถึงตัวช่วยทางการแพทย์ สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ใช้วิธีลดน้ำหนักหลังคลอดแล้วยังไม่ได้ผลค่ะ
อย่ารีบ อย่าหักโหม
การลดน้ำหนักหลังคลอด หมอไม่แนะนำให้ลดทันทีหลังคลอดนะคะ เนื่องจากการลดความอ้วนหลังคลอดจำเป็นต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวสักระยะก่อน หรือ หลังคลอด 6-8 สัปดาห์ ในคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่แล้ว หากคุณแม่ให้นมลูกเอง จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญและส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ รวมไปถึงการดูแลลูกน้อยหลังคลอด การทำงานบ้าน ก็มีส่วนช่วยให้คุณแม่ลดน้ำหนักหลังคลอดได้ด้วยวิธีธรรมชาติเช่นกันค่ะ
ดังนั้น หมอจึงแนะนำให้รอสักพัก เพื่อให้น้ำหนักคงที่เสียก่อน โดยหลังจากร่างกายเริ่มเข้าที่แล้ว น้ำหนักยังไม่ลดลง หรือยังลดได้ยาก เราสามารถเริ่มลดน้ำหนักหลังคลอดได้เลยค่ะ ซึ่งคุณแม่ต้องคำนึงถึงน้ำหนักที่ลดลงอย่างเหมาะสม นั่นคือ 0.6 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ไม่ควรหักโหมลดน้ำหนักหลังคลอดแบบรวดเร็วจนเกินไปค่ะ
ควบคุมอาหาร
การลดน้ำหนักหลังคลอดจะแตกต่างจากการลดน้ำหนักปกติทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่ยังให้นมลูกอยู่ คุณแม่ต้องรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งจะส่งผลกับน้ำนมของคุณแม่ด้วยค่ะ ดังนั้น คุณแม่ห้ามใช้วิธีการอดอาหารเป็นอันขาด แต่ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่แทน และต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เน้นการทานโปรตีน หรือเนื้อสัตว์ชนิดที่ไม่มีไขมันแทรก ทานไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ไขมันดี รวมถึงคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ และทานผักผลไม้ ที่เป็นแหล่งของกากใยไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่อิ่มได้นานขึ้น ลดการทานจุกจิก นอกจากนี้ การดื่มน้ำเยอะ ๆ และดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน น้ำอัดลม ชา กาแฟ จะช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ออกกำลังกาย
ช่วง 1-3 เดือนหลังคลอด เป็นเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนตอนก่อนตั้งครรภ์ หากคุณแม่รู้สึกอยากออกกำลังกายในช่วงนี้ก็สามารถทำได้เลยค่ะ แต่หากเป็นคุณแม่ที่ผ่าท้องคลอดควรรอให้ครบ 2 เดือน เพื่อให้แผลผ่าตัดหายสนิทเสียก่อนค่ะ ซึ่งในคุณแม่ที่คลอดวิธีธรรมชาติสามารถเริ่มออกกำลังกายใน 1 เดือนหลังคลอด โดยเลือกการออกกำลังกายที่ไม่มีแรงกระแทก อาจเริ่มต้นด้วยการเดินวันละ 5 นาที, การปั่นจักรยานอยู่กับที่, การว่ายน้ำ, เล่นโยคะหลังผ่าคลอด หรือแม้กระทั่งการทำงานบ้าน หรือการเลี้ยงลูก เล่นกับลูก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดความอ้วนหลังคลอดได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ
โปรแกรมลดน้ำหนักที่ Amara Clinic
อย่างที่หมอได้เกริ่นไว้ในตอนต้นนะคะว่า คุณแม่หลังคลอดบางท่านยังมีคงมีปัญหาน้ำหนักเยอะ อ้วนหลังคลอด ที่ถึงแม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักก็ยังไม่ลด หรือคุณแม่บางท่านยังไม่สามารถควบคุมอาหารได้ เพราะยังต้องเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน และประสบกับความเครียด ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้มีความอยากอาหารได้มากกว่าปกติ
ดังนั้น ในช่วงหลังคลอดที่ร่างกายมีการฟื้นตัว และลูกหย่านมแล้ว หมอแนะนำให้ใช้ตัวช่วยทางการแพทย์ อย่าง การใช้ตัวยา LP-1 Analogue ที่ช่วยควบคุมไม่ให้รู้สึกหิวบ่อย ทานอาหารแล้วอิ่มไว ไม่กินจุกจิก เมื่อทานอาหารได้น้อยลงก็จะส่งผลให้กระเพาะอาหารเล็กลง และน้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่องค่ะ โดยถือเป็นการลดน้ำหนักหลังคลอด ที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเราค่ะ มีความปลอดภัยสูง เพราะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ค่ะ (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Amara Pen)
ลดหุ่นหลังคลอดฉบับ Amara Clinic
หลังจากน้ำหนักลดลงแล้ว ปัญหาที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั่นก็คือ “ไขมันส่วนเกิน” ค่ะ เพราะคุณแม่หลังคลอดบางท่านยังมีไขมันดื้อที่ถึงแม้จะออกกำลังกายแล้ว ก็ยังลดได้ยาก แบบนี้ก็คงต้องพึ่งตัวช่วยลดหุ่นหลังคลอดอย่าง “ดูดไขมัน” ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการค่ะ คุณแม่บางท่านถามว่า หลังคลอดดูดไขมันได้ไหม ดูดไขมันได้เมื่อไหร่ โดยปกติแล้ว หมอจะแนะนำว่าให้ดูดไขมันในช่วงที่ร่างกายได้มีการฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้ว และคุณแม่หยุดให้นมลูกแล้ว แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแม่เองว่าจะให้นมลูกกี่เดือน บางคนก็เข้ามาดูดไขมันหลังคลอด 4 เดือน บางคนก็ 6 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละเคส ดังนั้น คุณแม่หลังคลอดสามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษาหมอเกี่ยวกับการดูดไขมันก่อนได้เลยค่ะ หรือทักแชทเข้ามาสอบถามกันก่อนได้ที่ LINE : @amaraclinic (มี@นำหน้า)
สัดส่วนที่คุณแม่หลังคลอดนิยมดูดไขมัน
- ดูดไขมันต้นแขน เพื่อแขนที่เรียวสวยดูสมส่วน
- ดูดไขมันหน้าท้อง ลดพุงหลังคลอด เพื่อหน้าท้องที่แบนราบ
- ดูดไขมันเอวเอส +ปีกหลัง ปรับเอวให้คอดลง ได้รูปสวยมีเคิร์ฟ เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง
- ดูดไขมัน Sexy Line ปั้นร่อง 11 เพิ่มเสน่ห์ให้คุณแม่หลังคลอด สวยเป๊ะ เหมือนเข้ายิมมานาน
- ดูดไขมันต้นขา จบปัญหาขาป่องด้านนอก ขาเบียดด้านใน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ถูกทัก “ยังไม่คลอดหรอ” จนทำให้คุณแม่หลังคลอดหมดความมั่นใจ พบกับ 6 วิธีลดหน้าท้องหลังคลอด ให้หุ่นกลับมาแซ่บเร่งด่วน
- หุ่งพัง ไขมันเยอะ หลังคลอดจะต้องแก้ไขอย่างไร ให้รูปร่างกลับมาสมส่วนได้อีกครั้ง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลดหุ่นหลังคลอด
ปัญหาหลังคลอดอื่น ๆ แก้ไขได้!
นอกจากเรื่องของน้ำหนัก หรือความอ้วนหลังคลอดแล้ว คุณแม่หลังคลอดยังต้องพบกับปัญหาอื่น ๆ ในร่างกาย ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดค่ะ เช่น หน้าอกหย่อนคล้อย เนื้อหน้าอกหาย, รอยแตกลายหลังคลอด, ปัญหาผิวพรรณ ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว, ปัสสาวะเล็ดหลังคลอด รวมถึงจุดซ่อนเร้นที่ดูเปลี่ยนไป แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะทุกปัญหามีทางแก้ค่ะ
หน้าอกเหี่ยว หย่อนคล้อย นมหาย
ในระหว่างตั้งครรภ์ หน้าอกของคุณแม่จะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และหลังคลอดมีการหดตัวด้วยเช่นกัน จึงทำให้หน้าอกมีความหย่อยคล้อย หน้าอกเหลว หน้าอกไม่เท่ากัน เนื้อหน้าอกหาย ในกรณีนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมหน้าอกด้วยวิธีต่าง ๆ ค่ะ
- เสริมหน้าอกซิลิโคน สามารถเพิ่มคัพ เพิ่มขนาดหน้าอกได้หลายซีซี มีให้เลือกทั้งซิลิโคนทรงหยดน้ำ ทรงกลม
- ฉีดไขมันหน้าอก ด้วยการดูดไขมันจากสัดส่วนที่คุณแม่กังวลใจออกมา จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการ และเติมไขมันปรับรูปทรงหน้าอกให้เต่งตึง มีเนื้อนมเต็มคัพ
- เสริมหน้าอกไฮบริด เทคนิคเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนร่วมกับการเติมไขมัน เพื่อหน้าอกที่ได้รูปสวย เติมร่องอก เนินอก ให้เต็มยิ่งขึ้น
รอยแตกหลังคลอด
ส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่หลังคลอดมักพบกับปัญหารอยแตกหลังคลอด เนื่องจากขณะตั้งครรภ์ ผิวหนังจะมีการยืดขยายตัวอย่างมากและรวดเร็ว ทำให้โครงสร้างเส้นใยอิลาสติและคอลลาเจนถูกทำลาย จนเกิดเป็นรอยแตก โดยระยะแรกของรอยแตกจะมีลักษณะเป็นริ้วสีแดงหรือสีชมพู ซึ่งเป็นระยะที่สามารถรักษาให้หายได้ดีกว่า ส่วนระยะรอยแตกที่เป็นสีขาวนั้น เป็นรอยแตกหลังคลอดที่เกิดมานานและยังไม่ได้รับการรักษา หากมารักษาในภายหลังก็ทำให้ได้ยากขึ้นค่ะ แต่ที่ Amara Clinic เราได้นำเทคโนโลยีเครื่อง Morpheus8 มาใช้ดูแลผิวพรรณแบบครอบคลุมในเครื่องเดียว เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยฟื้นฟูรอยแตกหลังคลอด ท้องลายหลังคลอด รวมถึงบริเวณอื่น ๆ ตามลำตัวที่มีปัญหารอยแตกลายค่ะ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Morpheus8)
ผิวพรรณไม่สดใส
ในขณะที่เริ่มตั้งครรภ์ คุณแม่หลายท่านมักมีปัญหาเรื่องผิวพรรณที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งส่วนใหญ่ที่หมอมักพบได้ในคนไข้คือ ผิวพรรณหมองคล้ำ รักแร้ ขาหนีบ และท้ายทอยดำ ตามมาด้วยปัญหาฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ บางรายก็มีสิวผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า จนเหลือร่องรอยของแผลเป็น รอยแดง-รอยดำ ซึ่งหมอแนะนำให้รักษาด้วยการทำเลเซอร์ค่ะ ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Lumecca เป็นนวัตกรรม IPL ที่มีความเข้มข้นกว่า IPL ทั่วไปถึง 3 เท่า ช่วยแก้ไขปัญหาสีผิวต่าง ๆ ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาผิวพรรณ หมอแนะนำให้เข้ามาตรวจเช็คสภาพผิวกันก่อนได้เลยค่ะ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Lumecca)
ช่องคลอดไม่กระชับ ปัสสาวะเล็ดหลังคลอด
นอกจากเรื่องอ้วนหลังคลอดแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลังคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ มักพบกับปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ อันเนื่องมาจากการยืดขยายของช่องคลอด รวมถึงการตัดฝีเย็บเพิ่มในระหว่างการคลอดบุตร โดยกลไลและขั้นตอนเหล่่านี้มีผลทำให้ช่องคลอดหลวม ไม่กระชับได้ค่ะ และปัญหาที่ตามมาติด ๆ นั่นก็คือ ปัสสาวะเล็ด ที่เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อย ซึ่งคุณแม่อาจสังเกตได้ว่ามีปัสสาวะเล็ดออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งขณะที่ไอ-จาม-หัวเราะ หรือตอนที่ต้องออกแรงยกของหนัก ๆ
ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการรักษาด้วย TESLA Former Chair เพียงแค่นั่งชิวๆ บนเก้าอี้ที่มีอุปกรณ์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าฝังอยู่ในเก้าอี้ 2 ตำแหน่งคือ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ซึ่งจะมีการส่งพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ไปยังกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน, ปากมดลูก, ช่องคลอด, ท่อปัสสาวะ, กระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ให้เกิดการกระตุ้นและฟื้นฟูสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานและโดยรอบกลับมาแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ลดปัญหาปัสสาวะเล็ดได้ โดยใช้เวลาในการรักษา 30 นาทีต่อครั้ง ไม่เจ็บ ไม่ต้องถอดเสื้อผ้า นับว่าเป็นการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น มีความสะดวกสบายมาก ๆ เลยค่ะ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TESLA Former)
น้องสาวไม่สวย
คุณแม่หลังคลอดมักเจอความเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ อย่างในร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคุณแม่ที่คลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติจะต้องเจอปัญหารูปทรงของจุดซ่อนเร้นที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น รอยยับย่น น้องสาวแฟ่บ น้องสาวไม่สวย เนื่องจากมีการขยายตัวช่วงระหว่างตั้งครรภ์ และหดตัวหลังคลอด แบบนี้หมอแนะนำให้คุณแม่หลังคลอดใช้วิธีฉีดไขมันน้องสาว ซึ่งเป็นการใช้ไขมันของตัวคุณแม่เอง เริ่มจากการดูดไขมันในสัดส่วนที่มีความกังวลเป็นพิเศษ เช่น ต้นแขน, หน้าท้อง, เอว, สะโพก หรือต้นขา หรือคุณแม่ที่ต้องการดูดไขมันเพื่อปรับรูปร่าง ลดหุ่นหลังคลอดอยู่แล้ว ก็สามารถนำไขมันมาฉีดไขมันน้องสาวได้เลยค่ะ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รูปร่างดีขึ้นจากการดูดไขมันแล้ว ยังสามารถนำไขมันที่ได้มาเติมน้องสาวได้อีก เรียกว่า สวยทีเดียวแบบ 2 ต่อไปเลยค่ะ
ใครที่อยากรู้เพิ่มเติมว่า น้องสาวเรามีกี่แบบ
จุดซ่อนเร้นแบบไหนที่เรียกว่าสวย เข้าไปติดตามอ่านเพิ่มเติมได้เลยค่ะที่ จิมิมีกี่แบบ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- กระชับช่องคลอดมีทางลัดแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นไหม? หาคำตอบได้ที่ วิธีกระชับช่องคลอดแบบเร่งด่วน
- น้องสาวกลับมาฟิตแบบไม่ต้องผ่าตัด มีอยู่จริง! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รีแพร์ช่องคลอด
สรุป
สำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่มีปัญหาอ้วนหลังคลอด มีไขมันส่วนเกินตามสัดส่วน แน่นอนค่ะว่าคงต้องขาดความมั่นใจ ซึ่งหมอเองก็มองว่าหากปล่อยให้น้ำหนักตัวยังนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับมีไขมันสะสมที่ทำให้รูปร่างดูใหญ่อยู่ต่อไป ก็ยิ่งอาจทำให้คุณแม่หลังคลอดมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนในระยะยาว ซึ่งอาจนำมาสู่โรคอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพตามมาได้ หมอจึงแนะนำให้ใช้วิธีลดน้ำหนักหลังคลอดแบบถูกวิธี และค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหม หรือหากคุณแม่หลังคลอดที่ยังคงมีปัญหากับการลดความอ้วนหลังคลอด หรือลดหุ่นหลังคลอดแล้วยังไม่ค่อยเห็นผล ก็สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ Amara Clinic ได้เลยค่ะ หมอยินดีให้คำปรึกษาฟรี หรือนัดคิวพบแพทย์ได้ที่ LINE : @amaraclinic (มี@นำหน้า)
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic