ปั้นหุ่นสวย ปรับหน้าท้องแบนราบ ฉบับเร็วทันใจ!

การมีหน้าท้องแบนราบ เอวคอด เป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน เพราะใส่ชุดไหนก็ดูเพรียวดูเป๊ะ แบบไม่ต้องมานั่งแต่งรูปก่อนอัปโหลดลง Social เลยล่ะครับ แต่หลาย ๆ คนคงต้องดับฝันนี้ไปก่อน เพราะดันมีพุงขึ้นมาก ยิ่งหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้นแค่ไหน ยิ่งห่างไกลคำว่าหน้าท้องแบนราบเท่านั้น หากคุณเป็นคุณนึงที่อยากมีหน้าท้องแบนราบด้วยทางลัด ไม่อยากออกแรงเสียเหงื่อไปกับการออกกำลังกาย ไม่มีเวลาฟิตหุ่น หรือคุมพฤติกรรมการกินของตัวเองไม่ได้ วันนี้ Amara Clinic ก็มีวิธีทำให้หน้าท้องแบนราบใน 3 วัน แบบไม่ต้องรอนาน มาฝากกันครับ – หมอไอซ์ Amara Clinic (KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน)

สาเหตุที่มีส่วนเกิน หน้าท้องป่อง พุงยื่นไม่สวย

ใครที่กำลังเผชิญกับเรื่องน่ากลุ้มใจอย่างพุงป่อง หน้าท้องยื่น พุงเป็นปลิ้น หน้าท้องไม่แบนราบดั่งใจอยู่ พอจะเดาสาเหตุและที่มาของปัญหาเหล่านี้กันได้ไหมครับ? ที่แน่ ๆ เลยคือส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกินในบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สะสมได้ง่ายที่สุดและพบได้บ่อยที่สุด แต่สาเหตุตั้งต้นของการสะสมของไขมันหน้าท้องล่ะคืออะไร? คำตอบก็คือพฤติกรรมการกินอาหารในแต่ละวัน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานี่แหละครับ!

พฤติกรรมที่ทำให้หน้าท้องไม่แบนราบ

• กินอาหารตามใจปาก กินไม่หยุด กินตลอดทั้งวัน
• กินอาหารมื้อหลักเสร็จ ต้องตบท้ายด้วยของหวานตลอด
• กินอาหารไม่นานก็เอนตัวลงนอน หรือนั่งอยู่กับที่นาน ๆ 
• กินอาหารในปริมาณมาก แต่กลับเผาผลาญออกไปน้อย
• นอนดึก นอนน้อย นอนเช้า ทำให้ต้องกินอาหารมื้อดึก
• มีความเครียดสะสม ทำให้กินอาหารได้เยอะขึ้น
• เลือกกินแต่อาหารที่มีรสหวาน ของมัน หรือของทอด
• ดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน ชานม กาแฟ หรือน้ำผลไม้เป็นประจำ
• ในแต่ละวันมีการขยับร่างกายน้อย ไม่ค่อยเดิน ไม่ค่อยออกแรง
• ไม่มีการควบคุมปริมาณอาหาร และไม่มีการควบคุมประเภทอาหาร
• ไม่มีการออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปเลย
• คิดว่าตัวเองกินแล้วไม่อ้วน จึงกินตามใจตัวเองเป็นอย่างมาก

รู้หรือไม่!? หน้าท้องของเรามีไขมันอยู่ 2 ชนิด!!

ถ้าอยากให้หน้าท้องแบนราบลง ต้องมีการทำให้ไขมันบริเวณหน้าท้องนั้นถูกกำจัดออกไปด้วย แต่ทราบหรือเปล่าครั้บว่าไขมันหน้าท้องของคนเรานั้น หลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน โดยไขมันหน้าท้องทั้ง 2 ชนิดนี้ มีความแตกต่างกันที่ตำแหน่งที่อยู่อาศัย และความอันตรายของมันครับ ส่วนสาเหตุที่เกิดการสะสมของไขมันหน้าท้องนั้น ค่อนข้างที่จะคล้ายคลึงกันมาก ๆ นั่นเอง

ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)

ไขมันในช่องท้อง หรือไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นไขมันที่หมอไม่อยากให้ทุกคนมีกัน เพราะมันอันตรายมาก อาจจะทำให้เกิดโรคร้ายขึ้นมาในอนาคตได้ แถมยังกำจัดออกได้ยากอีกด้วยครับ ซึ่งไขมันในช่องท้องจะอาศัยอยู่ภายในช่องท้อง ใต้กล้ามเนื้อหน้าท้องของเรา โดยจะพอกตัวอยู่รอบ ๆ อวัยวะภายใน หรือจะแทรกซึมเข้าไปในอวัยวะก็ย่อมได้

เมื่อมีไขมันในช่องท้องมาก หน้าท้องจะป่องออกมา พุงจะยื่น มีลักษณะเป็นพุงกลมตึง หรือภาวะอ้วนลงพุง (พบบ่อยในเพศชาย) ที่สำคัญคือไขมันชนิดนี้ เป็นตัวการที่ทำให้เราเป็นโรคอ้วน, โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคไขมันพอกตับ ฯลฯ อีกด้วย ส่วนวิธีกำจัดมันออกไป ต้องอาศัยการเผาผลาญของร่างกายเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือการออกกำลังกาย และการควบคุมปริมาณการกินอาหารให้เหมาะสม

ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)

ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เป็นไขมันที่พบได้ง่าย มีกันแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อันตรายกับร่างกายโดยตรงเหมือนไขมันในช่องท้อง แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจครับ เพราะถ้ามีไขมันชนิดนี้มาก ๆ อาจทำให้น้ำหนักตัวเกิน, มีปัญหาเรื่องข้อเข่า และเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้อยู่ดี ลักษณะของคนที่มีไขมันชนิดนี้เยอะ คือพุงเป็นชั้น จับแล้วนิ่มย้วย พุงปลิ้นออกมา หากกำจัดไขมันชนิดนี้ออกไป หน้าท้องแบนราบลงอย่างแน่นอนครับ

หน้าท้องแบนราบชิล ๆ แบบไม่ต้องออกแรง!

ในปัจจุบันนี้ เราสามารถมีหน้าท้องแบนราบ เอวคอดเอส มีร่องหน้าท้องสวย ๆ ได้ แบบไม่ต้องออกแรง อีกทั้งยังสามารถปรับหุ่น เหลารูปร่าง สร้างร่องกล้ามหน้าท้องสวย ๆ ได้ตามต้องการอีกด้วย ซึ่งวิธีที่หมอจะมาแนะนำกันนั่นก็คือการดูดไขมันปรับหน้าท้องแบนราบใน 3 วัน (ใช้เวลาพักฟื้นหลังทำประมาณ 3-7 วัน) ครับ การดูดไขมัน (Liposuction) ช่วยกำจัดไขมันใต้ชั้นผิวหนังออกมาได้อย่างตรงจุด หลังจากที่ดูดไขมันหน้าท้องเสร็จทันที หน้าท้องแบนราบลงตอนนั้นเลยครับ ดังนั้น ไซซ์เสื้อผ้าลดลงแน่นอน, หุ่นเพรียวทันที, พุงไม่ยื่นอีก, นั่งแล้วพุงไม่ปลิ้น ฯลฯ แน่นอน

การดูดไขมัน เพื่อให้หน้าท้องแบนราบลงตามที่ต้องการ ใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส ถ้าไขมันหน้าท้องมาก อาจจะใช้เวลานานขึ้น) สำหรับคนที่กลัวเจ็บ ไม่เคยศัลยกรรม และมีความกังวล สามารถวางใจได้เลย เพราะที่ Amara Clinic มีวิสัญญีแพทย์วิชาชีพในการให้ยาสลบแก่คนไข้ และคอยเฝ้าระวังอาการตลอดการดูดไขมันแบบ 1:1 ดังนั้น ปลอดภัยแน่นอน คล้ายกับว่าคุณงีบหลับไปเพียง 2-3 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาก็พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้เลย ลองดูภาพเปรียบเทียบก่อนดูดไขมันและหลังดูดไขมันทันทีกันด้านล่างนี้ครับ (ไม่ผ่านการรีทัช ปรับแสงให้ดูสวยงามขึ้นเท่านั้น  ดูดไขมันเสร็จแล้วถ่ายภาพทันที และภาพในไอแพดเป็นภาพก่อนดูดไขมันในวันเดียวกัน)

ดูดไขมันหน้าท้อง + เอวเอส ดียังไง?

ส่วนใหญ่คนที่มาดูดไขมันกับหมอจะดูดไขมันหน้าท้องร่วมกับดูดไขมันเอวเอสไปเลยครับ เพราะมันจะทำให้สัดส่วนบริเวณหน้าท้องดูสวยที่สุด หากเป็นการดูดไขมันหน้าท้องเพียงอย่างเดียว หน้าท้องแบนราบลงจริง พุงไม่ยื่นไม่ปลิ้นจริง ไซซ์เสื้อผ้าลดลงตามที่ต้องการ แต่มันไม่ได้ทำให้เอวด้านข้างคอดลงไปด้วย หากอยากได้ S Curve หรือเอวเอสเอวสับ ต้องดูดไขมันเอวเอสเพิ่มไปด้วยครับ แต่ถ้าอยากได้ Sexy Line หรือร่อง 11 เพื่อให้รูปร่างดู Sexy ขึ้น ก็สามารถแจ้งให้แพทย์ทำ Sexy Line เพิ่มให้ได้ครับ

สถานที่ดูดไขมันแต่ละแห่ง คลินิกดูดไขมันแต่ละที่ มีการนับตำแหน่งดูดไขมันไม่เหมือนกัน บางที่อาจจะนับเป็นจุดแผลดูดไขมัน, นับด้วยการทาบฝ่ามือ ฯลฯ แต่ที่ Amara Clinic เรานับตำแหน่งแบบเหมาบริเวณ อิงจากว่าดูดบริเวณไหนร่วมกันแล้วออกมาสวยที่สุด เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง หมอก็จะเหมาทั้งหน้าท้องบนและล่างไปเลย, ดูดไขมันเอวเอส จะควบรวมกับการดูดไขมันปีกหลังด้วย หรือดูดไขมันต้นแขนก็จะรวมทั้งสองข้าง และดูดไขมันออกไปแบบ 360 องศาเลย เป็นต้น

ทั้งนี้ คนที่มีเอวคอดสวยอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องดูดไขมันเอวเอสเพิ่มครับ สามารถดูดไขมันหน้าท้องเพียงอย่างเดียวได้เลย ยังไงก็ตามแนะนำให้เข้ามาปรึกษาดูก่อนก็ได้ครับ จะได้รู้ว่าตัวเองควรดูดไขมันตรงไหนบ้าง ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร ซึ่งหมอก็จะประเมินและพิจารณาให้อย่างละเอียด (ปรึกษาฟรี นัดหมายได้ที่  LINE : @amaraclinic)

แชร์ประสบการณ์ดูดไขมันหน้าท้องแบนราบจากเคสจริง

มาดูรีวิวดูดไขมัน เปลี่ยนหน้าท้องยื่นพุงป่องให้เป็นหน้าท้องแบนราบกันครับ หลังจากที่เราดูภาพนิ่งเดี่ยว ๆ ส่วนหนึ่งในบทความนี้กันไปแล้ว หมออยากจะแนะนำให้ผู้อ่านเข้าไปชมแชร์ประสบการณ์ดูดไขมันหน้าท้อง จากคนไข้จริงที่ Amara Clinic เพิ่มเติมด้วยครับ

หลังจากที่กดเข้าไปดูแล้ว จะเห็นรายละเอียดและแผนการรักษาทั้งหมดของแต่ละเคส ซึ่งเป็นการเขียนโดยแพทย์ดูดไขมันประจำเคสนั้น ๆ มีตั้งแต่ปัญหาสาเหตุที่ทำให้มาดูดไขมัน, สัดส่วนก่อนดูดไขมัน, การประเมินการรักษาโดยแพทย์, การวางแผนการรักษา, เครื่องมือที่ใช้, ผลลัพธ์หลังดูดไขมันเสร็จทันที, รีวิวดูดไขมันหน้าท้องหลังจากที่ทำมาแล้วหลาย ๆ เดือน ฯลฯ  โดยมีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเลยล่ะครับ บอกเลยว่าจัดเต็มมาก ถ้าอยากดูดไขมันให้หน้าท้องแบนราบต้องไม่พลาด!

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

ทำไมต้องเลือกดูดไขมันที่ Amara Clinic ?

เนื่องจาก Amara Clinic เป็นศูนย์การดูดไขมัน เติมไขมัน กระชับสัดส่วน และปรับรูปร่างโดยตรง เราจึงมีคนไข้ดูดไขมัน-เติมไขมันทุกวัน (กว่า 95% ของเคสที่เข้ามารับบริการจะเป็นดูดไขมัน-เติมไขมันทั้งสิ้น) ทำให้ทั้งทีมแพทย์ ทีมดูแลหลังการขาย และเจ้าหน้าที่ มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก รวมไปถึงเราเลือกใช้แต่เทคโนโลยีที่ทันสมัย เทคนิคที่ทำให้ผลงานออกมาสวยโดดเด่น ส่งผลให้ผู้ที่เข้ามารับบริการบอกต่อและรีวิวดูดไขมันออกไปมาก ๆ ทำให้เรามีเคสเยอะที่สุดในประเทศไทยและทวีปเอเชีย จนได้รับรางวัลการันตีผลงานติดต่อกันหลายปีซ้อน!

• รางวัล The Most Body-jet Users ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน
• รางวัล No. 1 in Asia of Procedures Done in 2020 – 2021 ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
• เราได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Body-jet Education Center ประจำประเทศไทย
• มี KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน (หมอไอซ์และหมอมะปราง)
• รีวิวดูดไขมันเพียบ! ทุกไซซ์ ทุกสัดส่วน ทุกช่วงอายุ มีทั้งของผู้ชายและผู้หญิง
• วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ แบบ 1:1 (วิสัญญีแพทย์ 1 คน : คนไข้ 1 คน)
• ห้องผ่าตัดมาตรฐานคลีนรูม ปลอดเชื้อ ปลอดภัย มีระบบ Positive Pressure
• เครื่องดูดไขมันทันสมัย มีหลายชนิด แพทย์เลือกใช้ตามความเหมาะสม
• ดูดไขมันราคาเหมา โปรโมชั่นคุ้มมาก ของแถมเพียบ จัดโปรดี ๆ ทุกเดือน!
• มีบริการ After Care และห้องพักฟื้น ดูแลหลังดูดไขมันอย่างครบครัน
• แพทย์วางแผนการดูดไขมันให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุด
• เน้นผลลัพธ์ที่สวยแบบธรรมชาติ แผลเล็กมาก มีความสมส่วน ไม่เสี่ยงแก้