นอกจากใบหน้า ผิวพรรณ และรูปร่างที่ผู้หญิงอย่างเรา ๆ ต้องดูแลแล้ว เรื่องของจุดซ่อนเร้น หรือน้องสาว ก็เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่สาว ๆ ควรเอาใจใส่เป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องของสุขภาพจุดซ่อนเร้นภายใน ที่หากดูแลได้ไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดปัญหาที่น่ากังวลตามมา เช่น น้องสาวมีกลิ่น ตกขาว หรือเกิดอาการคันและอักเสบ รวมถึงใส่ใจกับสุขภาพจุดซ่อนเร้นภายนอก ที่จะช่วยให้น้องสาวเรามีรูปทรงที่สวย ผิวพรรณสดใส ฟิตกระชับ หมดปัญหาน้องสาวเหี่ยว หรือน้องสาวดำ วันนี้หมอมะปราง Amara Clinic มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับจุดซ่อนเร้น รวมถึงวิธีดูแลน้องสาว เพื่อสุขภาพจุดซ่อนเร้นที่ดีทั้งจากภายใน และรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีมาฝากกันค่ะ โดยเริ่มต้นด้วยการไปทำความรู้จักกับจุดซ่อนเร้นภายในและภายนอกกันก่อนเลยค่ะ
จุดซ่อนเร้นภายใน
จุดซ่อนเร้นที่อยู่ภายใน หรือช่องคลอด (Vagina) เป็นอวัยวะที่มีความบอบบาง และเป็นจุดที่ผู้หญิงอย่างเราต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ โดยต้องรักษาสมดุล และดูแลเรื่องสุขอนามัย เพื่อไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองและมีภาวะอักเสบได้ สำหรับในช่องคลอดจะมีมูก หรือที่เรียกว่า ตกขาว ซึ่งมีลักษณะตกขาวที่ปกติจะมีสีใส หรือสีขาวอ่อน ๆ ไม่มีกลิ่น ไม่คัน ซึ่งร่างกายเราจะผลิตเองตามธรรมชาติ มีหน้าที่ช่วยในการหล่อลื่น ป้องกันการติดเชื้อ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ช่องคลอดเกิดการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา จะทำให้ลักษณะตกขาวผิดปกติค่ะ ทั้งในเรื่องของสีที่เปลี่ยนไป น้องสาวมีกลิ่น หรืออาจมีอาการคันร่วมด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ภายในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียชนิดดี อย่างแลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) ซึ่งจะมีหน้าที่ปกป้องเราจากแบคทีเรียชนิดไม่ดี, ช่วยรักษาสมดุลของค่า pH ทำให้ช่องคลอดเป็นกรดอ่อน ๆ เพื่อลดการติดเชื้อในช่องคลอด และช่วยผลิตแบคทีริโอซิน (Bacteriocins) ที่ทำหน้าที่ยับยั้งแบคทีเรียชนิดไม่ดีได้ แต่หากมีแบคทีเรียชนิดไม่ดีอยู่มากกว่าแบคทีเรียดี ก็จะทำให้ช่องคลอดเสียสมดุล จนอาจนำไปสู่การติดเชื้อและอักเสบได้ค่ะ
จุดซ่อนเร้นภายนอก
หากจะพูดถึงจุดซ่อนเร้นภายนอก ก็จะหมายถึง ลักษณะหรือรูปลักษณ์ ซึ่งแน่นอนค่ะว่า จุดซ่อนเร้นภายนอกของผู้หญิงเราจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน หรือมีรูปลักษณ์เฉพาะตัว (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ จิมิมีกี่แบบ) ทั้งในเรื่องรูปทรงและสีผิวของน้องสาว บางคนโชคดีไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ในสาว ๆ บางคนก็มีเรื่องกลุ้มใจกับลักษณะน้องสาวที่อาจทำให้ดูไม่สวยงาม จนขาดความมั่นใจไปเลยก็มีค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาน้องสาวดำ สีผิวไม่สดใส น้องสาวเหี่ยวแฟบ ไม่มีวอลลุ่มเต่งตึง หรือกลีบไม่เท่ากัน โดยลักษณะจุดซ่อนเร้นภายนอกที่เกิดขึ้น อาจเป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ หรืออาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังค่ะ ส่วนสาเหตุที่ทำให้จุดซ่อนเร้นภายนอกแตกต่างกัน หรือน้องสาวไม่สวย จะมีอยู่หลาย ๆ ปัจจัย อาทิ กรรมพันธุ์, ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน, น้ำหนักตัวขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว, การคลอดบุตร หรือแม้กระทั่งเรื่องของอายุที่มากขึ้น ทำให้ชั้นไขมันบางลงค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- หน้าโทรม ผิวแก่ ฉีดไขมันช่วยได้ไหม? ทำแล้วหน้าเด็กลง จริงไหม? หาคำตอบได้ที่ หน้าโทรม
- ไขมันอ่อนเยาว์ คืออะไร? จะเกิดอะไรหากไขมันส่วนนี้หายไป! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Baby Fat คือ
ปัญหาจุดซ่อนเร้นที่ไม่ควรมองข้าม
- น้องสาวมีกลิ่น เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความอับชื้น, ทานอาหารพวกของหมักของดอง, สวมกางเกงรัดรูปบ่อย ๆ, การสวนล้าง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือภาวะติดเชื้อในช่องคลอด ทำให้มีตกขาวและน้องสาวมีกลิ่น
- น้องสาวดำ เกิดจากเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังจำนวนมาก ซึ่งอาจมาจากกรรมพันธุ์ หรือเกิดขึ้นภายหลังจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น เกิดการเสียดสีที่ผิวหนังจากการใส่กางเกงรัดรูป, การเล่นกีฬาบางชนิด (เช่น ขี่ม้า) หรือการมีน้ำหนักตัวมาก ต้นขาด้านในใหญ่จนเบียดเสียดสีกับบริเวณน้องสาว ทำให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นคล้ำขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของน้องสาวดำ
- น้องสาวหลวม เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ, อายุมากขึ้น, เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อผิดปกติ, มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และคนที่อยู่ในภาวะโรคอ้วน
- น้องสาวเหี่ยว เกิดได้จากกรรมพันธุ์, น้ำหนักตัวขึ้นและลงอย่างรวดเร็ว, อายุมากขึ้น, การคลอดบุตร หรือแม้แต่ในบางรายที่เคยผ่าตัดแปลงเพศมาก่อน ซึ่งอาจโดนตัดไขมันออกมามากเกินไป ทำให้น้องสาวไม่อวบอิ่ม หรือน้องสาวเหี่ยวได้
11 วิธีดูแลน้องสาวให้สุขภาพดี ขาวใส ไร้กลิ่น ฟิตเฟิร์ม
อย่างที่หมอได้แนะนำไปนะคะว่า จุดซ่อนเร้นเป็นบริเวณที่บอบบางมาก ๆ ดังนั้น สาว ๆ ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาไม่พึงประสงค์ ทั้งน้องสาวดำ น้องสาวเหี่ยว น้องสาวมีกลิ่น หรือน้องสาวไม่ฟิตกระชับ เดี๋ยวเรามาดู 11 วิธีดูแลน้องสาวให้มีสุขภาพดีทั้งจากภายในและภายนอกกันค่ะ
1.ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน
การดูแลทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ถือเป็นสิ่งสำคัญของวิธีดูแลน้องสาว เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค ที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ รวมถึงเวลาอาบน้ำ หมอแนะนำให้ใช้เพียงน้ำเปล่าทำความสะอาดก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะการใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น หรือสบู่ หรือการสวนล้าง อาจทำให้ช่องคลอดเสียความสมดุล ทำลายแบคทีเรียชนิดดีในช่องคลอด และเสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ หลังทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแล้ว ควรซับเบา ๆ ให้แห้ง เพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้น
2.วันนั้นของเดือน ยิ่งต้องดูแล
ในวันที่มีประจำเดือน สาว ๆ ควรหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อลดการสะสมของแหล่งเชื้อโรค ที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณน้องสาว และยังช่วยให้สบายตัวอีกด้วยค่ะ รวมถึงเลือกใช้ผ้าอนามัยที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองกับจุดซ่อนเร้น ไม่มีน้ำหอม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคือง อาการแพ้ผ้าอนามัย และลดอาการน้องสาวมีกลิ่นได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลน้องสาวที่สาว ๆ ไม่ควรละเลยเด็ดขาดค่ะ
3.ทานอาหารที่ดีต่อน้องสาว
การรับประทานอาหารประเภทโพรไบโอติก เป็นวิธีดูแลน้องสาวให้แข็งแรงจากภายใน ซึ่งการทานอาหารประเภทโพรไบโอติก จำพวกโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างแบคทีเรียชนิดดี ลดโอกาสที่น้องสาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และลดโอกาสการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ แต่ทั้งนี้ หมอแนะนำให้เลือกทานชนิดที่น้ำตาลน้อยจะดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างแบคทีเรียชนิดดีในร่างกายแล้ว ยังไม่ทำร้ายหุ่นของเราอีกด้วยนะคะ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ โพรไบโอติก คือ)
4.สวมเสื้อผ้าที่สบาย ไม่อึดอัด
เนื่องจากบ้านเรามีอากาศที่ค่อนข้างร้อนนะคะ ดังนั้น การสวมเสื้อผ้า กางเกงชั้นใน และกางเกงที่ใส่สบาย ๆ ไม่รัดแน่นจนเกินไป และทำจากเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หรือจะเลือกใส่กางเกงที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือผ้าคอตตอนที่ซับเหงื่อได้ดี ช่วยระบายเหงื่อ และลดโอกาสที่น้องสาวมีกลิ่นได้ค่ะ นอกจากนี้ การใส่กางเกงที่รัดรูปมาก ๆ จะยิ่งทำให้ผิวหนังมีการเสียดสีได้มากขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของน้องสาวดำ
5.หมั่นสังเกตความผิดปกติของน้องสาว
วิธีดูแลน้องสาวต่อมา คือ การหมั่นสังเกตความผิดปกติของน้องสาวอยู่เป็นประจำ ด้วยการเช็คอาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อาการตกขาวที่มีสีและกลิ่นที่เปลี่ยนไป ร่วมกับมีอาการคัน, น้องสาวมีกลิ่นจากตกขาว , อาการเจ็บหรือแสบช่องคลอด, อาการปัสสาวะเล็ด หรือปัสสาวะแล้วรู้สึกเจ็บแสบ รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่ผิดสังเกต โดยหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น หมอแนะนำให้พบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาค่ะ
6.ไม่ทานยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ
การรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ช่องคลอดเสียสมดุล เพราะยาประเภทนี้ หากทานติดต่อกันนานเกินไป จะไปทำลายแบคทีเรียแลคโตบาซิลัส ชนิดที่ดีต่อช่องคลอดไป จึงอาจทำให้เกิดเชื้อรา มีอาการตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติตามมา ส่งผลให้น้องสาวมีกลิ่นได้ค่ะ หมอจึงแนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะตามระยะเวลาที่แพทย์สั่งเท่านั้น และไม่ควรทานเกินความจำเป็นนะคะ
7.ดูแลน้องสาวหลังมี Sex
หลังการมี Sex ควรทำความสะอาดน้องสาวด้วยน้ำเปล่า ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่หรือน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นค่ะ และไม่ควรใช้วิธีการสวนล้าง รวมถึงไม่ควรใช้ทิชชู่เปียก เพราะอาจมีส่วนผสมของน้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ ที่ทำให้เกิดระคายเคืองบริเวณน้องสาว และทำให้น้องสาวมีกลิ่นตามมาได้ หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็ซับเบา ๆ ให้แห้งค่ะ นอกจากนี้ ต้องคำนึงถึง Safe Sex ด้วยการสวมถุงยางอนามัย ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันป้องกันการตั้งครรภ์ (ในกรณีที่ยังไม่พร้อม) แล้ว ยังช่วยปกป้องตัวเราจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วยค่ะ
8.ควบคุมน้ำหนักตัว
วิธีดูแลน้องสาวต่อมา คือ การควบคุมน้ำหนัก เพราะการปล่อยให้น้ำหนักตัวเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน หรือภาวะโรคอ้วน รวมไปถึงการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี ทำให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็วเกินไป จะส่งผลกระทบช่องคลอดหลวม ไม่กระชับ และยังทำให้น้องสาวเหี่ยว ไม่เต่งตึง ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้พอดี มีค่า BMI อยู่ในระดับมาตรฐาน (อ่านเพิ่มเติม BMI คือ) โดยการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย ก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งเป็นวิธีดูแลน้องสาวให้กระชับ รวมถึงยังช่วยให้รูปร่างดี และส่งผลดีกับสุขภาพร่างกายอีกด้วยค่ะ
9.ฝึกขมิบฟิตน้องสาว
วิธีดูแลน้องสาวให้กระชับด้วยการฝึกขมิบ เป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลน้องสาวให้กระชับขึ้นได้แบบง่าย ๆ โดยหมอแนะนำว่าให้ฝึกขมิบ 20 ครั้ง (เท่ากับ 1 เซ็ต) ทำอย่างต่อเนื่อง อาจทำวันละ 2 เซ็ต เลือกแบ่งทำก็ได้นะคะ เช้า 1 เซ็ต และตอนเย็นอีก 1 เซ็ต ซึ่งมีทริคในการฝึกขมิบช่องคลอดอย่างถูกต้องคือ เริ่มจากให้ขมิบรอบ ๆ ช่องคลอด โดยไม่ต้องเกร็งหน้าท้อง หลังจากนั้นให้ขมิบค้างไว้แบบนับ 1-10 โดยสาว ๆ สามารถฝึกขมิบช่องคลอดได้ทุกที่ทุกเวลา อย่างเวลานั่งว่าง ๆ ดูทีวี ฟังเพลง หรือสาว ๆ ออฟฟิศที่นั่งทำงาน นั่งประชุม ก็สามารถทำได้เรื่อย ๆ ยิ่งทำได้มากกว่า 2 เซ็ตต่อวันก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะ
10.ฉีดไขมันน้องสาว
สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาน้องสาวไม่สวย น้องสาวดำ หรือน้องสาวเหี่ยว จนทำให้หมดความมั่นใจ หมอมีวิธีดูแลน้องสาวและช่วยฟื้นฟูให้บริเวณจุดซ่อนเร้นกลับมาอวบอิ่ม และช่วยให้ผิวพรรณตรงบริเวณน้องสาวกลับมาสดใสได้อีกครั้ง ด้วยการฉีดไขมันน้องสาวค่ะ ถือว่าเป็นเทคนิคที่สาว ๆ หลายคนให้ความสนใจมากเลยทีเดียว เพราะเป็นการใช้ไขมันของคนไข้เอง ไม่มีสิ่งแปลกปลอม แถมยังสวยได้ 2 ต่อ ได้ทั้งปรับสัดส่วนจากการดูดไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการออก แล้วนำมาเติมเต็มที่บริเวณน้องสาว
การเติมไขมันน้องสาว เป็นการผสานเทคนิคดูดไขมันจากบริเวณที่คนไข้ไม่ต้องการออก เช่น หน้าท้อง หรือ สะโพก ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-jet ที่ไม่ใช้ความร้อนใด ๆ ทำให้ได้เซลล์ไขมันที่มีเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตสูง ส่งผลให้ไขมันมีคุณภาพสูง เหมาะกับการนำไปฉีดไขมันต่อ จากนั้นนำไขมันที่ได้มาผ่านกระบวนการคัดแยกเซลล์ให้ได้เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ เลยค่ะ เพราะถ้าเราใช้กระบวนการแยกเซลล์ที่ได้มาตรฐานแล้ว ไขมันที่นำไปฉีดบริเวณน้องสาวก็จะมีโอกาสติดสูง และมีผลให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ
ขั้นตอนต่อมาก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ นั่นก็คือ “การวางเซลล์ไขมัน” หรือ “การฉีดไขมัน” อย่างพิถีพิถัน ซึ่งที่ Amara Clinic ใช้เทคนิคพิเศษในการวางเรียงเซลล์ไขมันที่ละจุดอย่างถะนุถนอม โดยบริเวณที่นิยมฉีดไขมันน้องสาว ได้แก่ หัวหน่าว (เพิ่มความโหนกนูนยิ่งขึ้น) และแคมใหญ่ (เพิ่มความอวบอิ่มให้น้องสาว) นอกจากนี้ ในเซลล์ไขมันยังมีสเต็มเซลล์ที่มีคุณสมบัติฟื้นฟูปรับสีผิวน้องสาวดำ ให้ผิวพรรณสดใสขึ้นอีกด้วยค่ะ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดไขมันน้องสาว)
11. กระชับน้องสาวด้วย 2 เทคโนโลยี
สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาน้องสาวไม่ฟิตกระชับ ที่ Amara Clinic เรามีวิธีดูแลน้องสาวให้กระชับขึ้น แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ด้วยการรักษา 2 วิธีคือ Virgin Tight และการทำ TESLA Former ค่ะ โดยการรักษาแรก Virgin Tight จะเป็นการใช้หลักการทำงานของวิธีกระชับช่องคลอดด้วย HIFU นี้จะเป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง สามารถลงลึกถึงชั้นผิว SMAS (ชั้นเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอดได้รับการฟื้นฟูและมีความกระชับมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงยังช่วยลดปัญหาปัสสาวะเล็ดได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับอีกหนึ่งเทคโนโลยีวิธีดูแลน้องสาว หรือวิธีดูแลให้น้องสาวกระชับ นั่นก็คือ TESLA Former ซึ่งจะมีอุปกรณ์แยกออกมาคือ TESLA Former Chair หรือ “เก้าอี้กระชับรัก” เป็นเทคโนโลยีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ Functional Magnetic Stimulation (FMS) ชนิดที่มีการกระตุ้นแบบเฉพาะเจาะจง ช่วยสร้างและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยมีการฝังอุปกรณ์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปในเก้าอี้ 2 ตำแหน่ง คือ บริเวณอุ้งเชิงกรานและบริเวณหลังส่วนล่าง เพื่อส่งคลื่นไปยังช่องคลอด ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ และกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง โดยจะกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟู รวมถึงสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและบริเวณโดยรอบ การรักษาก็แค่นั่งลงบนเก้าอี้ชิว ๆ เป็นเวลา 30 นาที (ต่อการรักษา 1 ครั้ง) โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้า ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ใส่เข้าไปในร่างกาย ไม่เจ็บ ให้ผลเทียบเท่ากับการขมิบช่องคลอดหรือกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานถึง 50,000 ครั้ง ในเวลา 30 นาที ซึ่งโดยปกติ เราจะไม่สามารถขมิบช่องคลอดเองได้จำนวนเท่านี้ในเวลาอันรวดเร็วอย่างแน่นอน ในขณะที่เทคโนโลยี TESLA Former สามารถทำได้ค่ะ ถือว่าเป็นวิธีกระชับช่องคลอดแบบเร่งด่วนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยค่ะ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ TESLA Former)
บทความที่น่าสนใจ
- ฉีดไขมันเพิ่มขนาดส่วนไหนได้บ้าง? ทำแล้วดีจริงไหม? หาคำตอบได้ที่ ฉีดไขมันเพิ่มขนาด
- อยากฉีดไขมันเสริมอึ๋ม ต้องเตรียมงบเท่าไหร่ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดไขมันเสริมอก ราคา
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 11 วิธีดูแลน้องสาวให้กลับมามีสุขภาพดีจากภายใน ป้องกันเรื่องน้องสาวมีกลิ่น หรือน้องสาวไม่สบาย และยังช่วยให้รูปลักษณ์น้องสาวกลับมาดูดีได้ แก้ไขน้องสาวดำ น้องสาวเหี่ยว พร้อมทั้งวิธีดูแลให้น้องสาวกระชับ มั่นใจได้มากขึ้นกว่าเดิม หมอหวังว่าสาว ๆ คงจะนำไปปรับใช้ และหมั่นดูแลสุขภาพและความสวยงามของน้องสาว กันเป็นประจำด้วยนะคะ เพราะเรื่องจุดซ่อนเร้นก็สำคัญไม่แพ้กับหน้าตา ผิวพรรณ และรูปร่างเช่นกัน สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออยากปรึกษาวิธีดูแลน้องสาวด้วยการฉีดไขมันน้องสาว และวิธีดูแลน้องสาวให้กระชับ แบบไม่ต้องผ่าตัด สามารถเข้ามาปรึกษาที่ Amara Clinic ทั้ง 2 สาขา (รัชโยธินและราชพฤกษ์) หรือแอดไลน์พูดคุย-นัดวันพบแพทย์ได้ที่ LINE : @amaraclinic (มี@นำหน้า)
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic