เติมไขมัน ตัวช่วยผิวเด็ก-เต่งตึง อย่างปลอดภัย

มีส่วนเกินอยากเอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ สวยสองต่อได้ ด้วยการเติมไขมัน! การเติมไขมันช่วยแก้ปัญหาผิวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย ริ้วรอย และสาว ๆ ที่มีปัญหาหน้าอกเล็ก ก้นแฟ่บ อยากเติมเต็มแบบปลอดภัย ใครที่ไม่ชอบการเสริมซิลิโคน หรือฉีดฟิลเลอร์ การเติมไขมันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์มากในปัจจุบัน ซึ่งทาง Amara Clinic เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดูดไขมัน และเติมไขมันโดยเฉพาะ ทีมแพทย์ระดับอาจารย์แพทย์ ทำด้านนี้โดยตรง จึงมีความเชี่ยวชาญมาก

การเติมไขมันคืออะไร?

การเติมไขมัน (Fat Grafting, Fat Transfer) คือการนำเซลล์ไขมันจากจุดหนึ่ง (สัดส่วนที่คนไข้มีความกังวลใจ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา) ไปเติมเต็มและปลูกถ่ายในบริเวณที่ต้องการ อาทิ เติมไขมันหน้าเด็ก, เติมไขมันหน้าอก, เติมไขมันสะโพก, เติมไขมันก้น, เติมไขมันมือเด็ก หรือเติมไขมันน้องสาวเป็นต้น เพื่อให้บริเวณดังกล่าว มีความเต่งตึง และอ่อนเยาว์ลง อีกทั้งการเติมไขมัน ยังช่วยปรับสภาพผิวในบริเวณดังกล่าวให้โกลว์สวย เนียนเด้ง และเต่งตึงอีกด้วย

ข้อดีของการเติมไขมัน

  • ไม่มีอาการแพ้ใด ๆ เกิดขึ้น
  • ผิวเด้ง เต่งตึง เรียบเนียนขึ้น
  • ไขมันตัวเอง ปลอดภัยที่สุด
  • ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด
  • ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น
  • ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ
  • เจ็บน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
  • ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ด้วย
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้
  • ราคาถูกกว่าเสริมซิลิโคน หรือฉีดฟิลเลอร์

ข้อเสียของการเติมไขมัน

  • ไขมันจะยุบลงไปประมาณ 30% จากทั้งหมดที่เติม
  • ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไขมันยุบตัวมากกว่าปกติ
  • รู้สึกเจ็บ มีอาการบวมช้ำ ในบริเวณที่ดูดไขมันออกมาได้บ้าง
  • มีข้อจำกัดในคนที่ผอมมาก ๆ เนื่องจากไขมันอาจไม่เพียงพอ
  • อาจจะต้องเติมไขมันซ้ำหลายครั้ง ถ้าต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ถาวร

เติมไขมัน ต้องใช้ไขมันจากจุดไหนบ้าง?

เราสามารถดูดไขมันจากทุกสัดส่วนในร่างกายมาเติมไขมันได้ครับ แต่จะต้องเป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น ทั้งนี้ หมอก็จะมีการประเมินสัดส่วนที่คนไข้อยากดูดไขมันออก และตำแหน่งที่คนไข้ต้องการเติมไขมันก่อนว่ามีความเหมาะสมกันหรือไม่

เช่น เคสที่ 1 มีหน้าท้องใหญ่ หน้าอกเล็ก ต้องการดูดไขมันหน้าท้อง มาเติมไขมันหน้าอก ถ้าหมอดูแล้วว่าไขมันหน้าท้อง เพียงพอที่จะเอาไปเติมไขมันหน้าอก ก็สามารถดูดไขมันหน้าท้องตำแหน่งเดียวได้ครับ

แต่ถ้าเป็นในกรณีแบบเคสที่ 2 คือเป็นคนตัวเล็ก ไซซ์ S-M ต้องการดูดไขมันหน้าท้องมาเติมไขมันหน้าอก แต่หมอประเมินแล้วว่า คนไข้มีไขมันน้อยมาก ถ้าดูดไขมันหน้าท้องตำแหน่งเดียว จะไม่เพียงพอต่อการเติมไขมันหน้าอก หมอก็แนะนำให้คนไข้ดูดไขมันตำแหน่งอื่น ๆ เพิ่มเติมครับ เช่น การดูดไขมันเอวเอส หรือการดูดไขมันต้นขาเพิ่มเป็นต้น (ขึ้นอยู่กับการพูดคุยตกลงกัน ระหว่างหมอกับคนไข้ครับ)

ตำแหน่งดูดไขมัน เติมไขมัน

ตำแหน่งดูดไขมันยอดฮิต

การดูดไขมันสามารถทำได้ทั้งตัว เกือบทุกจุดที่มีไขมันใต้ชั้นผิวหนังสะสมอยู่ อาทิดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเอวเอส (ดูดไขมันเอวคอด), ดูดไขมันต้นขาด้านใน, ดูดไขมันต้นขาด้านนอก, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันเหนียง, ดูดไขมันสะโพก หรือดูดไขมันทั้งตัว เป็นต้น

ด้วยกายวิภาคของร่างกายเรานั้น เราก็จะสามารถกะได้ว่าในแต่ละตำแหน่งมีไขมันประมาณไหน ส่วนไหนจะเหมาะกับการดูดไขมันออกมาและนำไปเติมไขมันต่อได้ดีที่สุด ซึ่งตำแหน่งที่มีปริมาณไขมันเยอะ และเป็นตำแหน่งที่นิยมในการดูดไขมันเอาไปเติมไขมันต่อที่สุดคือ

  • การดูดไขมันหน้าท้อง
  • การดูดไขมันเอวเอส
  • การดูดไขมันต้นขา ด้านใน
  • การดูดไขมันต้นขา ด้านนอก

ทำไมต้องเป็น 4 ตำแหน่งนี้? ก็เพราะว่า 4 ตำแหน่งนี้ เป็นบริเวณที่มักจะเกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินเยอะ ขยายได้เยอะ สังเกตได้จากคนตัวเล็ก ๆ ส่วนมากจะอ้วนตรงหน้าท้องล่าง ห่วงยางรอบเอว ต้นขาด้านใน (ขาเบียด) และต้นขาด้านนอก ทำให้การดูดไขมันในตำแหน่งเหล่านี้ ได้ปริมาณไขมันที่เยอะ ในบางเคสอาจจะดูดไขมันตำแหน่งเดียว ก็ได้ไขมันที่เพียงพอต่อการนำไปเติมไขมันได้แล้ว (อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมัน)

เซลล์ไขมันที่ดี ต้องมีลักษณะยังไง?

เซลล์ไขมันที่ดีและมีคุณภาพ เหมาะสำหรับการนำไปเติมเต็มต่อ จะต้องถูกเก็บออกมาด้วยเครื่องมือ ที่ไม่ได้ใช้ความร้อนในการสลายไขมันส่วนเกิน ครับ (ตัวอย่างเครื่องความร้อนคือ Vaser หรือ Ultra Z เป็นต้น)

เพราะถ้าเซลล์ไขมันถูกพลังงานความร้อนทำลาย เซลล์ไขมันจะแตกตัวจากภายใน และอยู่ในลักษณะของเหลว (น้ำมัน) ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพที่จะนำไปปลูกถ่ายต่อ สีของไขมันที่โดนพลังความร้อน จะมีสีส้มเข้มปนสีแดง หรือแดงมาก เนื่องจากมีการทำลายเส้นเลือดด้วย จึงทำให้มีเลือดออกมาปนกับไขมันด้วยนั่นเอง

ลักษณะของเซลล์ไขมันที่ดี จะต้องเป็นสีเหลืองนวลสวย อาจจะมีสีส้มปนมาได้บ้าง แต่สัดส่วนจะต้องเป็นสีเหลืองเยอะที่สุด และแยกชั้นกับน้ำเกลือผสมเลือดที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งเครื่องมือที่เหมาะสมในการดูดไขมันออกมา เพื่อเอาไขมันไปเติมต่อคือ การดูดไขมันด้วยแรงมือ (Manual Liposuction), การใช้เครื่องดูดไขมันพลังงานกล (Power Assisted Liposuction) และการใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet

ทั้งนี้ การเลือกใช้ก็จะขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมิน จากการพิจารณาตำแหน่งเติมไขมัน ตำแหน่งดูดไขมัน และปริมาณไขมันประกอบกัน

อ่านเพิ่มเติม : body-jet ปลอดภัยแค่ไหน?

การใช้เซลล์ไขมันดี มาเติมไขมัน

  • เพิ่มโอกาสให้ไขมันติดมากขึ้น
  • เซลล์ไขมันมีประสิทธิภาพสูง
  • ช่วยให้ไขมันติดเร็วขึ้น นานขึ้น
  • เติมไขมันแล้วเห็นผลจริง
  • เติมไขมันแล้วอยู่ได้นาน

การใช้เซลล์ไขมันไม่ดี มาเติมไขมัน

  • ใช้เครื่องความร้อนดูดไขมัน
  • ไขมันจะหายไปในเวลาไม่กี่วัน
  • เติมไขมันแล้วไม่ติด ไม่เห็นผล
  • ราคาถูกกว่าปกติ (หลักพัน)

ขั้นตอนการเติมไขมัน

ขั้นตอนในการเติมไขมัน ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ๆ คือการเก็บไขมัน (ดูดไขมัน), การคัดแยกเซลล์ไขมัน และการเติมไขมันเข้าไป เพื่อให้เซลล์ไขมันมีคุณภาพดีที่สุด ควรสอบถามและพิจารณาว่า คลินิกเติมไขมันที่เราสนใจ มีการเก็บไขมันด้วยวิธีใด ใช้เครื่องอะไร มีขั้นตอนยังไงบ้าง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสวยที่สุด ผลข้างเคียงน้อยที่สุด และมีความปลอดภัยสูงที่สุด

ขั้นตอนการเติมไขมัน

การเก็บไขมัน (ดูดไขมัน)

สำหรับเคสที่ต้องการดูดไขมัน เพื่อนำมาเติมไขมันในตำแหน่งเล็ก ๆ และใช้ปริมาณไขมันไม่มาก อย่างการเติมไขมันหน้าเด็ก, เติมไขมันมือเด็ก หรือเติมไขมันน้องสาวเพียงอย่างเดียว แพทย์อาจจะเลือกใช้การดูดไขมันด้วยแรงมือแทน เพราะวิธีนี้ เหมาะกับการดูดไขมันในปริมาณน้อย ๆ ต้องการเพียงไม่กี่ซีซีเท่านั้น หากต้องการเติมไขมันหลายร้อยซีซี อย่างการเติมไขมันหน้าอก หรือเติมไขมันสะโพก แพทย์ก็จะใช้เป็นเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet แทน จึงจะเหมาะสมกว่า

ดูดไขมันพลังน้ำ

เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เหมาะกับเคสที่ต้องการเติมไขมันในตำแหน่งใหญ่ ๆ เช่นเติมไขมันหน้าอก เติมไขมันก้นเด้ง หรือเติมไขมันสะโพก เพราะต้องอาศัยปริมาณไขมันที่เยอะ อีกทั้งยังเหมาะกับเคสที่ต้องการดูดไขมันส่วนเกินออกไป เพื่อให้สัดส่วนมีขนาดเล็กลงอีกด้วย เหตุผลที่ body-jet มีความอ่อนโยนมาก คือการใช้พลังงานน้ำในการสลายไขมัน ทำให้ไม่เกิดความร้อน จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บน้อยมาก ไขมันอยู่ในสภาพดี ยังมีชีวิตอยู่ เรียกได้ว่าเซลล์ไขมันมีประสิทธิภาพ ในการนำไปเติมไขมันต่อมากที่สุด

การคัดแยกเซลล์ไขมัน

เคยเห็นไหมครับว่าบางคน ทำไมเติมไขมันหน้ามาแล้ว มีก้อนแข็งเกิดขึ้น ใบหน้าไม่เรียบเนียน ดูไม่สวยเอาซะเลย นั่นเป็นเพราะบางคลินิก มีการดูดไขมันออกมาแล้วนำไปเติมเต็มต่อเลยในทันที ไม่ได้ผ่านกระบวนการคัดแยกเซลล์ไขมัน และปั่นเซลล์ไขมันให้มีโมเลกุลเล็กลงตามที่ต้องทำ ทำให้มีผลข้างเคียงหลังเติมไขมันมากมาย ดังนั้นกระบวนการนี้ จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก อีกทั้งการเติมไขมันในแต่ละตำแหน่ง จะมีการใช้ขนาดของเซลล์ไขมันที่แตกต่างกันไปอีกด้วย

การคัดแยกเซลล์ไขมันนั้น จะช่วยแยกน้ำเกลือ ยาชา เลือด และเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้เหลือแต่เพียงเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพจริง ๆ อยู่ จากนั้นก็จะนำไปปั่นเพื่อให้เซลล์ไขมันมีโมเลกุลที่เล็กลง ซึ่งการเติมไขมันทั่วหน้า ก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้เซลล์ไขมันขนาดเดียวกัน แพทย์ที่เชี่ยวชาญจะรู้ว่าควรวางไขมันอย่างไร ในชั้นไหน ด้วยเซลล์ไขมันขนาดเท่าไหร่ และปริมาณใด เพื่อป้องกันผลข้างเคียง อย่างปัญหาผิวไม่เรียบเนียน หรือปัญหาก้อนแข็งที่อาจเกิดขึ้นได้

การเติมไขมัน

ขั้นตอนสุดท้าย คือการเติมไขมันเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ โดยที่ Amara Clinic หมอจะใช้เทคนิคเติมไขมันจากเกาหลี โดยการค่อย ๆ วางเรียงไขมันเป็นเส้น และเป็นจุดเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม และเพิ่มความธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาก้อนแข็ง หรือใบหน้าไม่เรียบเนียนได้อีกด้วย โดยแผลเติมไขมันจะมีขนาดเล็กมาก เพียง 1-2 มิลลิเมตรเท่านั้น

เติมไขมันใช้เวลานานแค่ไหน?

ปกติแล้ว ระยะเวลาในการเติมไขมันจะอยู่ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมงครับ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เติมไขมัน, ปริมาณไขมันที่เติม (เพราะต้องมีกระบวนการปั่นคัดกรองเซลล์ไขมันทั้งหมด ก่อนนำไปเติม) และจำนวนตำแหน่งในการดูดไขมันด้วยครับ ซึ่งระยะเวลาในการดูดไขมันก็จะขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละเคสด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นดูดไขมัน 1-2 ตำแหน่ง และเติมไขมันหน้าอกด้วย ก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครับ  (แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ หรือแพทย์ไว้ล่วงหน้าครับ)

ผลข้างเคียงของการเติมไขมัน

เติมไขมันแล้วเป็นคลื่น

เติมไขมันแล้วเป็นคลื่น เกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ซึ่งปัจจัยจากฝั่งแพทย์ ที่สามารถเกิดขึ้นได้คือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ, ไม่รู้เทคนิคและวิธีการวางไขมันที่ถูกต้อง, เติมไขมันผิดชั้น (ถ้าใช้ไขมันโมเลกุลใหญ่ ไปเติมที่ผิวชั้นบน ก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวขรุขระได้), ไม่มีการปั่นคัดแยกเซลล์ไขมัน (ทำให้มีเซลล์ไขมันดีกับไม่ดีปะปนกันไป หลังทำจึงทำให้ไขมันยุบตัวลงไปมาก) และการที่ไขมันได้รับแรงกระทบกระแทก (ทำให้เซลล์ไขมันยุบตัวไม่เท่ากัน)

อาการบวมช้ำเขียว

หลังเติมไขมันจะมีอาการบวมจากไขมันที่เติมเข้าไปในปริมาณมาก (เติมเผื่อไขมันยุบตัวประมาณ 30%) บริเวณดังกล่าวจะมีอาการบวมเป็นพิเศษ และจะค่อย ๆ ยุบบวมลงจนเข้าที่สวย นอกจากนี้ยังมีอาการเขียวช้ำเล็กน้อย ในบริเวณรอยเข็มที่เติมไขมันเข้าไป นอกจากนี้ บริเวณดูดไขมันก็จะมีอาการบวมช้ำฟกช้ำด้วย (มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ดูดออกมา)

อาการเวียนหัว

การที่เรานอนดูดไขมัน-เติมไขมันเฉย ๆ เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำในร่างกายไป ประกอบกับยาชาที่ใส่เข้าไปในระหว่างทำหัตถการ จะทำให้รู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัว อยากอาเจียน เมื่อลุกขึ้นมา อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปภายใน 24 ชั่วโม และอาการเหล่านี้จะดีขึ้น เมื่อดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ เป็นประจำ

ความเจ็บ

ความเจ็บจากการเติมไขมันจะมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นอาการตึง ๆ หรือคัดเต้านม (ในกรณีที่เติมไขมันหน้าอก) แต่จะมีอาการเจ็บในบริเวณที่ดูดไขมันออกมามากกว่า หากดูดไขมันในปริมาณที่เยอะ หรือดูดไขมันเพื่อลดสัดส่วนด้วย ก็อาจจะมีความเจ็บระบมได้บ้าง แต่ทั้งนี้ การใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet จะทำให้เกิดความเจ็บ และความระบมช้ำน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลครับ (อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันเจ็บไหม?)

น้ำไหลออกจากแผล

การดูดไขมันออกมา จะต้องอาศัยการใส่สารน้ำที่เรียกว่า Tumescent (น้ำเกลือ, ยาชา, Adrenaline และตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก) เพื่อให้ดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น และรู้สึกเจ็บน้อยลง หลังดูดไขมันจึงมีน้ำค้างอยู่ที่ใต้ผิวเยอะมาก (แม้หมอจะรีดน้ำออกให้แล้ว) ดังนั้น จึงมีน้ำล้างเนื้อไหลออกมาจากแผลในช่วง 1-2 วันแรก อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อนได้ ดังนั้น จึงควรมีแผ่นซึมซับน้ำรองไว้ และสวมเสื้อผ้าที่มีสีเข้ม ๆ ครับ

การดูแลตัวเองหลังเติมไขมัน

หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเสริมให้ผลลัพธ์หลังการเติมไขมันออกมาดีที่สุด (ผิวเรียบไม่เป็นคลื่น, ไม่ติดเชื้อ, ไม่เกิดก้อน, ติดทนนาน, ติดเยอะ และเข้าที่เร็ว) ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังเติมไขมันของเราด้วยเช่นกัน ช่วง 1 เดือนแรกหลังเติมไขมันส่งผลมากครับ ดังนั้น ในช่วงนี้ควรดูแลตัวเองตามที่หมอแนะนำครับ

  1. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
  2. ทำความสะอาดแผลทุกวัน
  3. ระวังไม่ให้ไขมันที่เติมเข้าไป ได้รับความกระทบกระแทก
  4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ ๆ มีความเย็นจัด หรือร้อนจัด
  5. งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์
  6. งดรับประทานอาหารไม่สะอาด หรืออาหารไม่สุก
  7. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และลดน้ำหนักไปก่อน เพราะร่างกายจะดึงเอาไขมันที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน

ผู้ชายเติมไขมันได้ไหม?

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใคร ๆ ก็อยากดูดี มีใบหน้าเด็กไร้ริ้วรอย ผิวเนียนใสกันทั้งนั้น เพราะสื่อได้ว่าเรามีสุขภาพผิวที่ดี จนใคร ๆ ก็อิจฉา ซึ่งในเคสผู้ชายที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบธรรมชาติ ก็สามารถมาเติมไขมันหน้าได้นะครับ เคสเติมไขมันผู้ชายส่วนใหญ่ จะเน้นเติมไขมันทั่วหน้าเลย หรือบางเคสอาจจะเติมไขมันเฉพาะส่วนก็มีครับ เช่น เติมไขมันใต้ตา หรือเติมไขมันขมับ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับตามความต้องการของคนไข้แต่ละเคสครับ (อ่านเพิ่มเติม : การดูดไขมันผู้ชาย ทำได้ไหม?)

ฉีดไขมันหน้า ชาย

เติมไขมันอยู่ได้นานไหม?

ทำไมหลาย ๆ คนที่เติมไขมันมาแล้ว บอกว่าผลลัพธ์ที่ได้หลังเติมไขมันมีทั้งดีและไม่ดี บางคนเติมไขมันแล้วติดเยอะและนานมาก แต่ทำไมบางคนเติมไขมันแล้วไม่ติดไม่เห็นผล? ตรงนี้หมอต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยจริง ๆ ครับ เช่น เทคนิคของแพทย์, กระบวนการเก็บไขมัน, เครื่องดูดไขมันที่ใช้, การคัดแยกเซลล์ไขมัน และการดูแลตัวเองหลังเติมไขมัน เป็นต้น

เติมไขมันอยู่ได้นานไหม? ซึ่งจริง ๆ แล้ว การติดของเซลล์ไขมัน จะต้องใช้ระยะเวลาปลูกถ่ายประมาณ 1 เดือน หลังจากเติมไขมันเสร็จ ซึ่งในช่วง 1 เดือนแรกนี้ ไขมันจะมีโอกาสยุบตัวลงไปได้บ้าง ประมาณ 10-30% และคนไข้ดูแลตัวเองตามที่หมอแนะนำอย่างเครงครัดนะครับ เซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายสำเร็จแล้ว (ติดแล้ว) ก็จะกลายเป็นไขมันในบริเวณนั้นของร่างกายของเราปกติ อยู่กับเราได้ตลอดชีวิตเลยครับ

ทั้งนี้ปริมาณของไขมันในร่างกาย จะเพิ่มขึ้นตามการพฤติกรรมการกินของเรา และลดลงตามพฤติกรรมของเราด้วย เช่นการออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ก็เป็นธรรมดาที่จะทำให้ไขมันในร่างกายของเรามีการสลายหายไปด้วย นอกจากนี้ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ยังทำให้ร่างกายเรามีปริมาณไขมันลดลง และส่งผลให้เกิดปัญหาความหย่อนคล้อยตามมาอีกด้วย

เติมไขมันกี่วันหายบวม?

เติมไขมันหน้ากี่วันหายบวม? เราจะแบ่งอาการบวมหลังเติมไขมันเป็น 2 ระยะ ระยะแรกคือหลังเติมไขมันทันที จะเป็นอาการบวมที่เกิดจากไขมันที่แพทย์เติมเข้าไป ในปริมาณที่มากกว่าที่ต้องการ คือประมาณ 30% (เพราะไขมันจะยุบตัวลงประมาณ 30% หลังเติมไขมันประมาณ 1 เดือน) และยังบวมได้จากยาชา และความอักเสบใต้ผิวอีกด้วย

อาการบวมในระยะนี้ จะใช้เวลาประมาณ 1-2 วันเท่านั้นอาการบวมหลังเติมไขมันในระยะที่ 2 คือช่วง 3-5 วัน จะมีอาการบวมขึ้นมากกว่าปกติ มีรอยเขียวช้ำบริเวณที่เติมไขมันเข้าไป จากนั้นอาการบวมก็จะค่อย ๆ น้อยลง และจะเริ่มเข้าที่หลังจากที่เติมไขมันไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ – 1 เดือน ซึ่งอาการบวมในแต่ละเคส และแต่ละตำแหน่ง จะมีระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน (อ่านเพิ่มเติม : ฉีดไขมันบวมกี่วัน?)

เติมไขมันอันตรายไหม?

เติมไขมันอันตรายไหม? การเติมไขมันเป็นการนำไขมันจากตัวเรา ที่มีอยู่เดิมในร่างกายของเรา มาผ่านกระบวนการปั่นคัดกรอง และใส่เข้าไปในร่างกายเช่นเดิม ไม่มีการเจือปนจากสารสังเคราะห์อื่น ๆ หากเซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกมาอยู่ในระบบปิด ไม่ได้สัมผัสอากาศใด ๆ และมีการฆ่าเชื้อเครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ประกอบกับแพทย์ที่เติมไขมัน มีความรู้ความเชี่ยวชาญ การเติมไขมันไม่เป็นอันตรายใด ๆ แน่นอนครับ

เติมไขมันต่างกับฉีดฟิลเลอร์ยังไง?

ไขมันเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย จึงมีความธรรมชาติและปลอดภัยมาก แต่ต้องผ่านขั้นตอนทางการแพทย์ก่อน จึงจะสามารถเติมไขมันได้ ส่วนฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารสังเคราะห์ มีความแข็งนิ่มหลายระดับ สามารถฉีดเติมได้ทันที และมีการระบาดของฟิลเลอร์ปลอมเยอะ (ฟิลเลอร์ราคาถูก) จึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ตั้งแต่ระดับเบา ไปจนถึงระดับรุนแรง (อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ VS เติมไขมัน)

เติมไขมัน

  • อาการแพ้ : ไม่มี
  • อาการบวมช้ำ : มีอาการบวม
  • ก้อนนูน ผิวไม่เรียบ : เกิดขึ้นได้น้อย
  • อยู่ได้นานไหม : 3 เดือน – ตลอดชีวิต
  • สภาพผิว : ผิวโกลว์ละมุนสวย เหมาะกับสายเกาหลี
  • ราคา : ถูกกว่า

เติมไขมัน

  • อาการแพ้ : ไม่มี
  • อาการบวมช้ำ : มีอาการบวม
  • ก้อนนูน ผิวไม่เรียบ : เกิดขึ้นได้น้อย
  • อยู่ได้นานไหม : 3 เดือน – ตลอดชีวิต
  • สภาพผิว : ผิวโกลว์ละมุนสวย เหมาะกับสายเกาหลี
  • ราคา : ถูกกว่า

เติมไขมันที่ไทย สู้เกาหลีได้ไหม?

หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็นภาพรีวิวเติมไขมัน จากเคสของคนเกาหลีมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ โดยเฉพาะการเติมไขมันหน้าเด็ก ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูสวย ใบหน้าดูเด็กลง ให้ความรู้สึกว่าถึงการเป็นสาวเกาหลีจริง ๆ เลยสงสัยว่า การเติมไขมันที่ไทยกับเกาหลีต่างกันไหม? ที่เกาหลีจะออกมาดีกว่ารึเปล่า? เติมไขมันหน้าที่ไทย สวยสู้ทำที่เกาหลีได้ไหม?? หมอบอกได้เลยครับว่า “ได้” และผลลัพธ์ที่ได้ในปัจจุบันแทบไม่ต่างกัน

ต้องยอมรับครับว่าสมัยก่อน เมืองไทยอาจจะยังไม่มีเทคโนโลยี หรือเทคนิคการเติมไขมันดีอย่างที่เกาหลี แต่ในปัจจุบันมีการนำเทคนิคและเทคโนโลยีต่าง ๆ เหมือนที่เกาหลีเข้ามาใช้ครับ อย่างหมอเอง จบหลักสูตรการเติมไขมันระดับสูงจากประเทศเกาหลีโดยตรง นำเทคนิคเติมไขมันจากเกาหลีมาปรับใช้ และใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet เหมือนที่เกาหลีเช่นกันครับ แถมยังทำได้ในราคาที่เบากว่า ไม่ต้องเสียค่าเดินทางหรือที่พักแพง ๆ สามารถเข้ามารับบริการ After Care ง่ายกว่า และหมอยังสามารถดูแลได้อย่างเต็มที่อีกด้วยครับ

After Care ที่ Amara Clinic

สามารถเติมไขมันตรงไหนได้บ้าง?

การเติมไขมันสามารถทำได้ทั่วทั้งร่างกายเลยครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเสริมความบกพร่องในส่วนไหน อีกอย่างไขมันเป็นสิ่งที่มีอยู่เดิมในร่างกายของเรา เราเพียงใช้กระบวนการทางการแพทย์ นำไขมันจากบริเวณที่เราไม่ต้องการ ไปไว้ในบริเวณที่เราต้องการเท่านั้นเองครับ แต่ก็จะมีตำแหน่งที่นิยมเติมไขมัน, ตำแหน่งไม่นิยมเติมไขมัน และตำแหน่งที่คนไม่รู้ว่าเติมไขมันได้อยู่นะครับ รายละเอียดตามนี้เลย!

ตำแหน่งที่นิยมเติมไขมัน

ตำแหน่งที่นิยมเติมไขมันเป็นอันดับหนึ่งเลย คงไม่พ้นการเติมไขมันหน้าเด็ก หรือการเติมไขมันทั่วใบหน้า เป็นสิ่งที่สาว ๆ หลาย ๆ คนชอบ เพราะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสวยสไตล์สาวเกาหลีได้ ใบหน้าจะดูอิ่มเอม แถมดูสุขภาพดี ผิวดูโกลว์สวย และไร้ริ้วรอยเป็นที่สุด

ซึ่งการเติมไขมันหน้า ก็สามารถทำได้ทั่วทั้งหน้า หรือจะเติมไขมันเฉพาะจุดก็ได้ เช่น เติมไขมันหน้าผาก, เติมไขมันใต้ตา, เติมไขมันเปลือกตา, เติมไขมันร่องแก้ม หรือเติมไขมันขมับ เป็นต้น

รองลงมาก็จะเป็นการเติมไขมันหน้าอก (เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง) สำหรับคนที่ต้องการอัพไซซ์ หรือแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย (อ่านเพิ่มเติม : ฉีดไขมันหน้าอก) ต้องการความเป็นธรรมชาติที่สุด หรือเป็นคนไม่ชอบการเสริมหน้าอกซิลิโคน และการเติมไขมันก้นเด้ง (เติมไขมันสะโพก) เพื่อให้สะโพกกลมสวย เนียนเด้ง แบบสาวสายฝอ (เคสของหมอนิยมเติมไขมันก้นเด้ง ควบคู่ไปกับบการดูดไขมันหน้าท้อง และเอวเอส เพื่อให้สะโพกรับกับก้นมากที่สุด)

หน้าหมองคล้ำ

ตำแหน่งที่ไม่นิยมเติมไขมัน

หลักในการเติมไขมัน คือการเข้าไปเติมเต็มในพื้นที่ที่เคยมีไขมันมาก่อนอยู่แล้ว หรือพื้นที่ที่ไม่ได้ต้องการโครงสร้างที่แข็งแรว เช่นบริเวณร่องแก้ม, ขมับ, หน้าอก, ก้น หรือสะโพก เป็นต้น ดังนั้น ในบริเวณที่ต้องอาศัยความแข็งเป็นโครงสร้างอย่างจมูก และคาง จะไม่เหมาะกับการเติมไขมันมากนัก ควรจะใช้เป็นการเสริมด้วยซิลิโคน หรือฉีดฟิลเลอร์แทนครับ ทำให้ในปัจจุบันไม่นิยมการเติมไขมันจมูก และเติมไขมันคางครับ เพราะการเติมไขมันในตำแหน่งนี้ จะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เมื่อเทียบกับการใช้ซิลิโคน หรือฉีดฟิลเลอร์นั่นเอง

ตำแหน่งที่คนไม่รู้ว่าเติมไขมันได้

หลาย ๆ คนไม่รู้ ว่าเราสามารถเติมไขมันหลังมือ เพื่อเพิ่มความเต่งตึง และเติมไขมันน้องสาว เพื่อเพิ่มความอิ่มเอมได้ การเติมไขมันมือเด็กและเติมไขมันน้องสาว มักจะเหมาะกับเคสที่มีอายุแล้ว เพราะผิวจะมีสภาพหย่อนคล้อย และมีไขมันในร่างกายน้อยลง จึงทำให้บริเวณมือที่เคยเต่งตึงเหี่ยวลง และทำให้บริเวณน้องสาวที่เคยเต่งตึงดูไม่สวย การเติมไขมันในบริเวณเหล่านี้ สามารถทำได้ครับ แต่น้อยคนนักที่รู้ อีกทั้งยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์อีกด้วย

บางคนอาจจะงงว่าเติมตำแหน่งนี้เพื่ออะไร? มันช่วยอะไรได้บ้าง? ซึ่งการเติมไขมันหลังมือ (เติมไขมันมือเด็ก) จะช่วยให้มือมีความเต่งตึงมากขึ้น เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบสวมเครื่องประดับ หากเรามือเหี่ยวก็อาจจะทำให้ดูไม่สวยงามได้ครับ ส่วนการเติมไขมันน้องสาว จะช่วยทำให้น้องสาวดูอ่อนเยาว์ลง เนียนเด้ง เต่งตึงมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้สาว ๆ ที่มีอายุครับ

เติมไขมันที่ไหนดี?

การหาข้อมูลเพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ก่อนที่จะเลือกว่าจะไปเติมไขมันที่ไหนดี (ดูดไขมันที่ไหนดี) เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเราถูกหลอกลวง จากคลินิกเติมไขมันที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีจรรยาบรรณ หวังเพียงแต่เงินเท่านั้น อาจจะล่อลวงด้วยราคาเติมไขมันที่ถูก ไม่มีการบอกราคาชัดเจน ทำให้เราเจอกับราคาที่ไม่ตรงปก บวกเพิ่มมากมาย และเสียเงินไปฟรี ๆ แถมได้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับที่ต้องการอีกด้วย ดังนั้น หมอแนะนำให้พิจารณาคลินิกเติมไขมันในเรื่องด้าน ๆ ดังนี้ครับ

  • ตรวจสอบแพทย์ และความเชี่ยวชาญ
  • ดูผลงาน เคสรีวิว และประสบการณ์ของแพทย์
  • ความน่าเชื่อถือของคลินิกเติมไขมัน
  • การให้คำปรึกษาอย่างตรงจุดของแพทย์
  • แพทย์แนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม
  • มีรีวิวเติมไขมันที่หลากหลาย
  • เจ้าหน้าที่เต็มใจให้บริการเต็มที่
  • มี After Care ดูแลหลังเติมไขมัน
  • ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย
  • มีวิสัญญีแพทย์สำหรับวางยาสลบหรือไม่
  • มีความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคอยู่เสมอ
  • ราคาเติมไขมันสมเหตุสมผล ไม่ถูกเกินไป
  • ใส่ใจดูแล ทั้งก่อนและหลังเติมไขมัน

เติมไขมันราคาเท่าไหร่?

Amara Clinic ไม่ใช่คลินิกเติมไขมันราคาถูก ราคาเติมไขมันของเราจะอยู่ในระดับปานกลาง ด้วยเครื่องมือ มาตรฐาน และสิ่งต่าง ๆ ที่คนไข้ของหมอจะได้รับ หมอต้องบอกเลยว่าราคานี้ไม่แพงเลย เราเลือกใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่จากเยอรมัน ใช้เครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานทุกขั้นตอน ห้องผ่าตัดของหมอมีระบบครบที่สุด และมี After Care ดูแลหลังเติมไขมันอย่างครบครัน

ซึ่งราคาเติมไขมันจะมีสองแบบ คือการใช้เครื่องและไม่ใช่เครื่อง ซึ่งราคาเติมไขมันแบบใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet จะเริ่มต้นที่ตำแหน่งละ 39,900 บาท (ขึ้นอยู่กับรายละเอียดส่วนตัวของคนไข้ เช่น BMI, ปริมาณไขมัน หรือวิธีระงับความเจ็บ เป็นต้น) และราคาเติมไขมันแต่ละตำแหน่งที่บวกเพิ่มเข้ามา ดังนี้

ราคาเติมไขมันล่าสุด อัปเดตปี 2565

บริเวณที่เติมไขมัน

ราคาเติมไขมัน

เติมไขมันหน้า ราคา (ไม่ใช้เครื่องดูดไขมัน)

49,900 บาท

ราคาเติมไขมันหน้าเด็ก

+39,900 บาท

ราคาเติมไขมันหน้าอก

+10,000 บาท

ราคาเติมไขมันก้นเด้ง

+20,000 บาท

ราคาเติมไขมันมือเด็ก

+20,000 บาท

วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์

+25,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันราคาเท่าไหร่?

ทำไมต้องเติมไขมันที่ Amara Clinic

ทีมแพทย์ดูดไขมัน

เติมไขมันที่ Amara Clinic ดีไหม? ดีและประทับใจแน่นอนครับ เราเป็น Body-jet Education Center (ศูนย์การสอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ด้วยเครื่อง body-jet ประจำประเทศไทย) ทีมแพทย์จบหลักสูตรดูดไขมัน-เติมไขมัน ระดับสูงจากประเทศเกาหลี มีความละเอียดปราณีตทุกเคสทุกขั้นตอน นอกจากนี้ เรายังได้รับรางวัล The Most Body-jet User หรือ คลินิกที่มีเคสดูดไขมันพลังน้ำ และเติมไขมันเยอะที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

“ถึงแม้เราไม่ใช่คลินิกที่ดูดไขมัน-เติมไขมันราคาถูก แต่เรายึดมั่นที่จะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด ปลอดภัยที่สุด สำหรับคนไข้ของเราทุกเคส และ เราจะไม่ยอมลดมาตรฐานอย่างแน่นอน! เราให้คำมั่นว่า ทุกเคสที่เข้ามาดูดไขมัน เติมไขมัน และรับบริการที่ Amara Clinic จะเป็นเคสที่จะต้องสวย ปลอดภัย เห็นผลจริง ในทุกเคส” –หมอไอซ์ หมอมะปราง–

Amara Clinic ศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมัน เฉพาะทาง

  • ทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
  • คุณหมอเป็นอาจารย์สอนเติมไขมัน
  • เครื่องมือที่ทันสมัย และได้มาตรฐานที่สุด
  • ห้องผ่าตัด มาตรฐานโรงพยาบาล
  • เทคนิคเติมไขมันจากประเทศเกาหลี
  • มีทีมวิสัญญีแพทย์ และพยาบาล
  • มีห้องพักฟื้น และ After Care ครบครัน
  • เรามีรีวิวเติมไขมันจากคนไข้เยอะที่สุด
  • มีเคสเติมไขมันรีวิวเพียบ!! ทุกสัดส่วน
  • ดูแลใส่ใจเต็มที่ทุกขั้นตอน ทั้งก่อนและหลัง
  • เน้นความปลอดภัย และผลลัพธ์หลังเติมไขมัน

เทคโนโลยีที่ Amara Clinic เลือกใช้

  • Body-jet เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ นวัตกรรมใหม่จากเยอรมนี
  • Vaser Smooth 2.2 เครื่องดูดไขมันเวเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด
  • Ultra Z เครื่องดูดไขมันจากเกาหลี ที่เหมาะกับสาวไซซ์เล็กที่สุด
  • J Plasma เครื่องกระชับสัดส่วน เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากอเมริกา
  • HIFEMเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อแบบเร่งด่วน (ปั้นก้นเด้ง ซิกแพค เซ็กซี่ไลน์)
  • Venus Legacy เครื่องนวดกระชับหลังดูดไขมัน ราคาหลักล้านที่ดีที่สุด
  • ห้องผ่าตัด มาตรฐานโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ในประเทศไทย
  • วางยาสลบ อย่างปลอดภัย โดยวิสัญญีแพทย์

สรุป

          สรุปการเติมไขมันสามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอย ความหมองคล้ำ และการขาดความเต่งตึงได้ดี อีกทั้งยังช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และปลอดภัยอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกเติมไขมัน อยากจะรู้ว่าเราควรเติมไขมันที่ไหนดี? นั้น

หมอแนะนำให้ลองพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน ตามที่หมอได้แนะนำไป และเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาอย่างตรงจุดครับ หมอหวังว่าผู้อ่านทุกคนจะได้คลินิกเติมไขมันที่ตรงใจ และผลลัพธ์หลังเติมไขมันที่ตรงจุดที่สุดนะครับ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

    2 thoughts on “เติมไขมัน ตัวช่วยผิวเด็ก-เต่งตึง อย่างปลอดภัย

    1. jeff says:

      Do you want to become a Canadian citizen and have a business?

      Canadian business immigration programs offer opportunities for entrepreneurs and investors to establish and expand their businesses in Canada. These programs typically include options like the Start-Up Visa Program, Provincial Nominee Programs, and the Work Permit Programs. They provide a pathway for eligible individuals to obtain permanent residency in Canada by making significant investments or starting and managing businesses, contributing to the country’s economic growth and development.

      “Unlock the secrets to business success! Read our article now and take your business to new heights. Click here to get started.”

      https://arnikavisa.com/canada-investor-visa-learn-about-investment-immigration

    2. jeff says:

      Hi, unfortunately, I faced challenges with the slow loading speed of your website, leading to frustration. I recommend a service, linked below, that I’ve used personally to significantly improve my website speed. I really love your website…Optimize now

    Comments are closed.